ADMIN JAAMay 2, 2023การ Mix ที่ดีสามารถรู้ได้อย่างไรการ Mix ที่ดี สามารถรู้ได้อย่างไร ?สำหรับคนที่ทำเพลงใหม่ จะต้องสงสัยแน่นอนครับ ว่างานที่เรา Mix นั้นดีหรือไม่ดีครับเพราะฉะนั้นเราจะ List มาเป็นข้อให้เลยครับ ว่าเราสามารถดูที่อะไรได้บ้าง1. ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีครบทุกชิ้นการ Mix ที่ดี ผู้ฟังจะสามารถฟังได้ครบทุกเครื่องดนตรีครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีชิ้นไหน เราจะต้องจัดวางและจัดการในส่วนของย่านความถี่เสียงของเครื่องดนตรีทุกชิ้น ไม่ให้ทับกันครับ ยกตัวอย่างเช่น Kick และ Bass ที่จะต้องทำการ Sidechain รวมไปถึงเครื่องดนตรีอย่าง Guitar และ Piano ที่ต้องใช้Equalizer ในการจัดการย่านความถี่เสียงครับ เพราะฉะนั้นจำไว้เลยครับ ทุกเครื่องดนตรีจะต้องมี Space ของมันและไม่ควรทับกันครับ2. ความคมชัดของเสียงร้องเสียงร้องเป็นอีก 1 สิ่งสำคัญสำหรับการทำเพลง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้องไหน คำไหน ควรจะทำให้มันคมชัด เพราะถ้าเสียงร้องของเพลงเราไม่ดีจะทำให้เพลงของเรานั้น Drop ลงแน่นอนครับ การใช้ Compressor ก็มีส่วนช่วยให้เสียงร้องนั้นดียิ่งขึ้นครับ ยิ่งเสียงร้องในแต่ละท่อน นั้นมีนํ้าหนักเสียงที่แตกต่างกัน เราควรจะจัดการส่วนนี้ให้ดีครับ3. ทำให้เพลงมี Dynamic Rangeอีกสิ่งนึงที่ Produce มือใหม่ควรคำนึงถึงนั้นก็คือ การสร้าง Dynamic Range ที่ดีในเพลงครับ การเรียบเรียงและการ Mix เป็นอีก 1 สิ่งสำคัญมากๆสำหรับการทำเพลงพยายามตัดหรือถอนเครื่องดนตรีออกบางท่อน อย่า Copy Paste ทุกท่อนในเพลงของเราครับ โดยเฉพาะการ Mix ควรจะสร้าง Dynamic Range ให้กับเครื่องดนตรีด้วยอย่างเช่น การจัดการ Volume Balance ในแต่ละท่อน ให้มีความแตกต่างครับ เพราะฉะนั้น การ Mix ที่ดีควรมีนํ้าหนักที่แตกต่างในทุกๆเครื่องดนตรี เท่านี้ก็จะทำให้เพลงนั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น4. การจัดการ Stereo Placement ที่ดีStereo Placement คือตำแหน่งของเครื่องดนตรี ที่จัดอยู่ในรูปแบบ Mono และ Stereo ครับ ในส่วนนี้ ถ้าการ Mix ที่ดีเขาจะจัดการกับเครื่องดนตรีต่างๆ ให้มีพื้นที่ของมันในเชิง Stereoยกตัวอย่างเช่น Kick, Bass เป็น Mono แต่เครื่องดนตรีประเภท Pad หรือ BGV (Background Vocal) เขาจะจัดการเป็นรูปแบบ Stereo กว้างๆ เพื่อเพิ่มมิติให้กับผู้ฟังครับเพื่อไม่ให้ทุกอย่างมากองรวมกันและทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเพลงนั้นอึดอัด การจัดการ Stereo Placement ก็เป็นอีก 1 สิ่้งที่ต้องทำครับ5. เปรียบเทียบงาน Mix เรากับเพลง Referenceในขั้นตอนนี้ เราสามารถนำงาน Mix ของเรามาเปรียบเทียบกับเพลง Reference เพื่อให้ได้ความใกล้เคียงในแง่ของ Equalizer การจัดวางองค์ประกอบต่างๆครับการทำแบบนี้ ไม่ได้เป็นการลอกเลียนแบบ แต่สามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนาในส่วนของการ Mix ของเราให้ดียิ่งขึ้นครับ ยิ่งสามารถทำได้ใกล้เคียงของเพลง Reference เท่าไหรก็ยิ่งสามารถตอบได้ว่า เพลงของเรามีการ Mix ที่ดีครับนี้ก็คือ Check List 5 ข้อที่สามารถดูได้ครับ ว่างาน Mix ของเรานั้นดีหรือยัง เหมาะสำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดทำเพลงครับส่วนถ้าใครอยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของการ Mix สามารถดูได้ที่ช่อง YouTube : Tong Apollo เลยครับ มีเนื้อหาคอนเท้นต์ดีๆรออีกเพียบ !Youtube : Tong ApolloInstagram : classabytongapolloFacebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong ApolloTikTok : Class A by Tong Apollo#สอนทำเพลงออนไลน์ #แต่งเสียงร้อง #classabytongapollo
การ Mix ที่ดี สามารถรู้ได้อย่างไร ?สำหรับคนที่ทำเพลงใหม่ จะต้องสงสัยแน่นอนครับ ว่างานที่เรา Mix นั้นดีหรือไม่ดีครับเพราะฉะนั้นเราจะ List มาเป็นข้อให้เลยครับ ว่าเราสามารถดูที่อะไรได้บ้าง1. ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีครบทุกชิ้นการ Mix ที่ดี ผู้ฟังจะสามารถฟังได้ครบทุกเครื่องดนตรีครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีชิ้นไหน เราจะต้องจัดวางและจัดการในส่วนของย่านความถี่เสียงของเครื่องดนตรีทุกชิ้น ไม่ให้ทับกันครับ ยกตัวอย่างเช่น Kick และ Bass ที่จะต้องทำการ Sidechain รวมไปถึงเครื่องดนตรีอย่าง Guitar และ Piano ที่ต้องใช้Equalizer ในการจัดการย่านความถี่เสียงครับ เพราะฉะนั้นจำไว้เลยครับ ทุกเครื่องดนตรีจะต้องมี Space ของมันและไม่ควรทับกันครับ2. ความคมชัดของเสียงร้องเสียงร้องเป็นอีก 1 สิ่งสำคัญสำหรับการทำเพลง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้องไหน คำไหน ควรจะทำให้มันคมชัด เพราะถ้าเสียงร้องของเพลงเราไม่ดีจะทำให้เพลงของเรานั้น Drop ลงแน่นอนครับ การใช้ Compressor ก็มีส่วนช่วยให้เสียงร้องนั้นดียิ่งขึ้นครับ ยิ่งเสียงร้องในแต่ละท่อน นั้นมีนํ้าหนักเสียงที่แตกต่างกัน เราควรจะจัดการส่วนนี้ให้ดีครับ3. ทำให้เพลงมี Dynamic Rangeอีกสิ่งนึงที่ Produce มือใหม่ควรคำนึงถึงนั้นก็คือ การสร้าง Dynamic Range ที่ดีในเพลงครับ การเรียบเรียงและการ Mix เป็นอีก 1 สิ่งสำคัญมากๆสำหรับการทำเพลงพยายามตัดหรือถอนเครื่องดนตรีออกบางท่อน อย่า Copy Paste ทุกท่อนในเพลงของเราครับ โดยเฉพาะการ Mix ควรจะสร้าง Dynamic Range ให้กับเครื่องดนตรีด้วยอย่างเช่น การจัดการ Volume Balance ในแต่ละท่อน ให้มีความแตกต่างครับ เพราะฉะนั้น การ Mix ที่ดีควรมีนํ้าหนักที่แตกต่างในทุกๆเครื่องดนตรี เท่านี้ก็จะทำให้เพลงนั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น4. การจัดการ Stereo Placement ที่ดีStereo Placement คือตำแหน่งของเครื่องดนตรี ที่จัดอยู่ในรูปแบบ Mono และ Stereo ครับ ในส่วนนี้ ถ้าการ Mix ที่ดีเขาจะจัดการกับเครื่องดนตรีต่างๆ ให้มีพื้นที่ของมันในเชิง Stereoยกตัวอย่างเช่น Kick, Bass เป็น Mono แต่เครื่องดนตรีประเภท Pad หรือ BGV (Background Vocal) เขาจะจัดการเป็นรูปแบบ Stereo กว้างๆ เพื่อเพิ่มมิติให้กับผู้ฟังครับเพื่อไม่ให้ทุกอย่างมากองรวมกันและทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเพลงนั้นอึดอัด การจัดการ Stereo Placement ก็เป็นอีก 1 สิ่้งที่ต้องทำครับ5. เปรียบเทียบงาน Mix เรากับเพลง Referenceในขั้นตอนนี้ เราสามารถนำงาน Mix ของเรามาเปรียบเทียบกับเพลง Reference เพื่อให้ได้ความใกล้เคียงในแง่ของ Equalizer การจัดวางองค์ประกอบต่างๆครับการทำแบบนี้ ไม่ได้เป็นการลอกเลียนแบบ แต่สามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนาในส่วนของการ Mix ของเราให้ดียิ่งขึ้นครับ ยิ่งสามารถทำได้ใกล้เคียงของเพลง Reference เท่าไหรก็ยิ่งสามารถตอบได้ว่า เพลงของเรามีการ Mix ที่ดีครับนี้ก็คือ Check List 5 ข้อที่สามารถดูได้ครับ ว่างาน Mix ของเรานั้นดีหรือยัง เหมาะสำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดทำเพลงครับส่วนถ้าใครอยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของการ Mix สามารถดูได้ที่ช่อง YouTube : Tong Apollo เลยครับ มีเนื้อหาคอนเท้นต์ดีๆรออีกเพียบ !Youtube : Tong ApolloInstagram : classabytongapolloFacebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong ApolloTikTok : Class A by Tong Apollo#สอนทำเพลงออนไลน์ #แต่งเสียงร้อง #classabytongapollo
Comentários