วันนี้เรามี Features ลับ สำหรับคนที่ใช้โปรแกรม FL Studio 20 มาฝากกันครับ เราไปดูกันที่ เคล็ดลับแรกเลยครับ
1. แก้ไข Piano Roll และการใช้ FPC Sampler กับ Piano Roll
คนที่ชอบใช้ Sampler ในการทำเพลง หรือลาก Sampler จากหน้าต่าง Browser ในทางซ้าย ซึ่งแน่นอนครับ ต้องมีคนลากไปลงผิดที่ จาก Playlist ไปลงที่ตัว Puano Roll แน่นอนครับ
เมื่อลากลงไปที่ Piano Roll รูป Waveform ก็จะขึ้นใน Piano Roll ซึ่งไม่มีผลอะไรแถมเกะกะลูกตาอีกด้วย ซึ่งแก้ไขง่ายๆเลยครับ เพียงแค่กด (Alt + N) ตัว Waveform ก็จะหายไปครับ
และอีก 1 ฟีเจอร์ที่เราสามารถทำได้ นั้นก็คือ เราสามารถโยนเสียงต่างๆ ใน Plugin FPC ของ FL Studio ลงในหน้าต่าง Piano Roll ได้ครับ เมื่อโยนลงไป ตัว Piano Roll ก็จะเปลี่ยนเป็น Instrument
ที่อยู่ใน FPC ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Kick,Snare,Hihat หรือ Clap ครับ ซึ่งเราสามารถเขียนไลน์กลองทั้งหมด ได้ใน Piano Roll ทันทีเมื่อเราโยน เสียงใน Plugin FPC ลงไปในหน้าต่าง Piano Roll ครับ
2. เปลี่ยน Layout Keyboard ต่างๆ
สำหรับคนที่ไม่มี MIDI Keyboard ที่ใช้ในการทำเพลง FL Studio มีฟังชั่นพิเศษใส่มาให้ด้วยครับ โดยที่เราสามารถกดที่ Typing Keyboard to Piano Keyboard ของเดิมจะเป็น Layout Piano ให้เราเลือกที่ Layout Piano เป็น Minor Natural ครับ เมื่อเราเลือกเสร็จ คีย์บอร์ดที่เราใช้งานทุกอย่าง จากเดิมที่กดเป็นคีย์ลัด
จะเปลี่ยนเป็นการกดเสมือน MIDI Keyboard ทันทีครับ โดยตัวคีย์บอร์ดจะแบ่งออกเป็น 4 Octave โดยเริ่มจาก ตัว Z เป็น Octave ตํ่าสุด ไล่ไปที่ A (Octave ที่ 2) Q (Octave ที่ 3) และ เลข 1 เป็น (Octave ที่ 4) หรือ Octave สูงสุดครับ และเรายังสามารถเลือกเป็นรูปแบบ Scale บนคีย์บอร์ดได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น Other Japanese Insen
เมื่อกดโน้ต 1 ตัว FL Studio ก็จะเล่นเป็น Scale ให้ทันทีครับ เราสามารถกดโน้ตตัวอะไรก็ได้บนคีย์บอร์ด มันก็จะเปลี่ยนเป็น Scale ทันทีโดยไม่มีการเล่นโน้ตที่ผิดตัวแน่นอนครับ
3. การปรับแต่งหางเสียงของ Bass 808
ใครที่ทำเพลง HipHop จะต้องถูกใจกับสิ่งนี้แน่นอนครับ เพราะมันคือการทำให้หางเสียง 808 ยาวแบบไม่มีสิ้นสุดครับ พูดง่ายๆมันจะหยุด จะขึ้นอยู่กับ Note เราเขียนไว้ครับ ซึ่งวิธีทำง่ายๆ ให้เรากด (Ctrl + E) เพื่อเปิด Edison ครับ จากนั้นให้เรากดที่รูป แม่เหล็กด้านบน และเลือก Snap to Zero - Crossing ครับ จากนั้นซูมที่ตัว Waveform ให้ได้มากที่สุด เพื่อเราจะสามารถ มาร์คจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของ Waveform ได้อย่างถูกต้องครับ จากนั้นกด (Ctrl + L) และเช็ค Fader ที่อยู่ในหน้าต่างนี้ให้ปิดให้หมดครับ
เราสามารถฟังเสียง Bass ได้ทันทีเมื่อเปิดหน้าต่างนี้ ถ้าเราไม่ได้ยินเสียง Clipping แสดงว่า เรามาร์คจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของ Waveform ถูกต้องครับ แต่ถ้ามีเสียง Clipping ให้กลับไปแก้จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของ Waveform ใหม่ทันทีครับ เมื่อไม่มีเสียง Clipping ให้เรากด Accept ครับ หลังจากนั้นกด (Ctrl + A) และลาก Waveform ใน Edison ไปลงที่หน้าต่าง Sampler ครับ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ การทำ Bass 808 ลักษณะนี้ เหมาะกับการ Slide Bass ในแต่ละตัวโน้ตครับ
4.เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับเสียง เปลี่ยนเป็นรูปชัด
ใน FL Studio เราสามารถเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับเสียงต่างๆได้ครับ ยกตัวอย่างเช่น เสียงคอร์ดของ Piano ที่ซึ่งไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะกดคอร์ด หลายๆตัวโน้ตได้พร้อมกันแน่นอนครับ
มันจึงไม่มีความเป็นธรรมชาติเลย หรือเหมือนหุ่นยนต์เล่นทื้อๆครับ ซึ่งแก้ไขได้ เพียงแค่กด (Ctrl + S) มันก็จะโชว์หน้าต่าง Strumizer ขึ้นมาครับ และปรับ Strength ในช่อง Time ครับ ในแต่ละตัวโน้ตก็จะมีการกดที่ไม่พร้อมกันทันทีครับ ซึ่งขึ้นอยู่ว่าต้องการให้มันเหลือม มากน้อยแค่ไหนครับ หรือเราจะเลือกปรับตามความต้องการของเราโดยเลื่อนให้ตัวโน้ตไม่เล่นพร้อมกันครับ
และปรับ Velocity ของตัวโน้ตที่เราเลื่อนลงเล็กน้อย และปรับหางของตัวโน้ตให้สั้นลงครับ (หรือถ้ายังรู้สึกไม่พอใจ ก็สามารถกด Alt + X และเลือกปรับ Multiply ของ Velocity เพิ่มเติมได้อีกครับ)
แค่นี้เสียงก็จะดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นครับ ซึ่งทั้ง 2 วิธีก็สามารถใช้ได้เหมือนกันครับ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าต้องการเปะ มากน้อยแค่ไหนครับ
Comments