ADMIN JAAApr 21, 2023เคล็ดลับการ Mix แบบ Professionalอีกหนึ่งปัญหาของการมิ๊กซ์เสียง ที่เกิดขึ้นบ่อยสำหรับโปรดิวเซอร์มือใหม่ หลายๆคนมิ๊กซ์เพลงแล้วรู้สึกว่าเอ้... เสียงที่เรามิ๊กซ์ออกมาแล้ว มันแห้งไป หรือมิ๊กออกมาแล้ว เสียงมันดูแน่นและอู้จนเกินไป วันนี้เราจะมาแก้ข้อสงสัยนี้กันครับซึ่งมันนี้เราจะหยิบมาให้ดูกันใน 3 Example นะครับ ได้แก่1. มิ๊กซ์แบบแห้งๆเลยไม่มีอะไร (Thin)2.มิ๊กซ์แบบเสียงแน่นเยอะไปในทางอู้ (Muddy)3.มิ๊กซ์แบบ Balanceหลายๆคนดูแล้วคงเกิดคำถามว่า เพราะอะไรมิ๊กซ์เพลงออกมาแล้ว ดูแห้งไม่มี มิติ ทำไมมิ๊กซ์ออกมาแล้ว เสียงมันอู้ๆ ดูอุดๆออกมาไม่หมด ซึ่งทั้งสองตัวนี้เกิดจาก การ Balance เสียงที่ไม่ดีหรือ Balance ในย่านความถี่ตํ่าไม่ดีครับให้จำไว้เลยครับ ถ้าเพลงของเราดูแห้งไม่มีอะไร นั้นคือย่านความถี่ Low เราน้อยไป แต่ถ้าเสียงมันอู้ๆ แน่นๆนั้นคือย่านความถี่ High เราน้อยเช่นกันครับหรือคิดแบบนี้ครับ ถ้าเพลงของเรามี Energy มากเกินไป เพลงเค้าเราจะรู้สึกอู้ๆแน่นอนครับ แต่ถ้า Energy ของเพลงน้อยเกินไป เสียงก็จะแห้งนั้นเองครับซึ่งระยะความถี่เสียงที่เราจะมาพูดกันนี้ จะอยู่ที่ราวๆ 100Hz ไปจนถึง 300Hzโดยประมานนี้นะครับและจริงๆแล้ว ปัญหาเรานี้ การ Boost หรือ Cut ไม่ได้มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาเรานี้นะครับ และไม่ใช่แค่ว่า ย่านนี้มีความดังไปหรือย่านความถี่เสียงนี้เบาไป ปัญหาของมันจริงๆแล้วคือ ย่านความถี่เสียง Low นั้นมี Energy ที่น้อยไปครับจริงๆแล้วการแก้ไขปัญหาเรานี้ เราต้องฟังหลังจากมิ๊กซ์เสร็จเลยครับ เช่นมิ๊กซ์ออกมาแล้ว เสียงแห้งไปมากขาด Energyต้องบอกก่อนนะครับ Volume Balance ต่อให้ Balance ระดับความดังของเสียงมันก็เกิดปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะสิ่งที่เราพูด ณ ตอนนี้คือเรื่องของ Energy ไม่ใช่แค่เรื่องของ Balance ระดับเสียงอย่างเดียว(ในกรณี ที่เพิ่งเริ่ม Mix ให้ใช้วิธีนี้ครับ)ซึ่งถ้าเกิดสิ่งเหล่านี้ปุ๊ป สิ่งที่้เราทำได้อีกอย่าง ก็คือใส่ EQ ลงใน Mix Bus ครับเช่นถ้า Energy มันเยอะไป ก็สามารถ Cut ย่าน Low ลงบ้างนิดหน่อยครับ ดูตามความเหมาะสม ซึ่งตรงนี้ต้องอาศัยการฟังมากๆ พยายามสร้าง Balance ของเสียงให้ได้มากที่สุดครับแต่ถ้าเกิดปัญหาเหล่านี้มันอยู่ในขั้นตอนที่ เราไปแก้ตั้งแต่แรก แล้วมันทำให้เวลางานช้าขึ้นหรือยุ่งยากขึ้นเรามีเคล็ดลับมาบอกกันครับ เริ่มกันที่นี้เลยครับ Energy มากเกินไปหรือ (Muddy)2 .หาเสียงเครื่องดนตรี ที่เราคิดว่าเสียงนั้นเคลียร์ดีแล้ว Balance ระดับเสียงทุกอย่างดีแล้วไม่จำเป็นจะต้องปรับอะไรแล้ว หาที่ละเครื่องดนตรีทั้งหมดของเพลงเราเลยครับ โดยการ Mute เสียงฟังดูที่ละเครื่องดนตรี ฟังซํ้าๆ เมื่อเราปิดบางเครื่องดนตรี และรู้สึกว่า เสียงเครื่องดนตรีนี้พอปิดแล้ว เพลงของเราฟังแล้วดีขึ้น นั้นแหละครับ คือตัวปัญหาของเราเมื่อเจอปัญหาของเรา ก็สามารถใช้วิธีการใส่ EQ เพื่อไป Cut ย่านความถี่เสียงที่เราต้องการจะเอาออกหรือมันมากไปหรือจะลดเสียงของเครื่องดนตรีนั้นลงอีกหน่อยก็ได้ครับต่อมาจะเป็นในส่วนของเพลงที่ขาด Energy มากเกินไป หรือเสียงมันฟังออกมาแล้วแห้งนั้นเองครับซึ่งวิธีแก้ไขปัญหา (Thin)3. คือฟังเพลงของเราครับ ว่ามันขาดส่วนไหนมากเกินไป ยกตัวอย่าง ขาด Energy ในพาร์ทของกีต้าร์เราตรงนี้การใช้ EQ จะไม่มีผลอะไรแล้วครับ สิ่งเดียวที่เราต้องทำเลยนั้นก็คือ สร้างพาร์ทนั้นขึ้นมาอีกพาร์ทและทำ Octave ของพาร์ทนั้นให้ตํ่าลง และเพิ่มเสียงขึ้นในมิ๊กซ์ อีกนิดหน่อยเพราะการทำแบบนี้จะไม่ทำให้เสียงของเรานั้นเปลี่ยนโทนนั้นเองครับ และมิ๊กซ์ของเราจะรู้สึกได้เลยครับว่ามัน Balance มากขึ้น แต่การแก้ไขปัญหาข้อนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการอัดเสียงที่เราอัดมาตอนแรกด้วยนะครับถ้าเราอัดเสียงมาแย่ตั้งแต่แรก การแก้ไขปัญหานี้ทำได้ยากแน่นอนครับ(เหมือนที่เราบอกกันอยู่ประจำเลยครับ ว่าการอัดเสียงนั้นมีผลสำหรับมากต่องานของเรา โดยเฉพาะการมิ๊กซ์นั้นเอง)ปัญหาเหล่านี้จริงๆแล้ว มันเกิดจากการทำ High Pass Filters ด้วยนะครับอย่าใส่ High Pass ลงในทุกๆอย่างนะครับ เพื่อให้ Kick และ Bass นั้นมี Space อยู่บ้างครับอย่าขัดย่านความถี่เสียงตํ่าให้แคบเกินไปครับ เพราะถ้ามากไปมันจะทำให้โทนของเรานั้นเปลี่ยนเช่นกันการแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้ ควรฟังที่ละจุดและทุกชิ้นเครื่องดนตรี ที่อยู่ในเพลงเราครับ และลองดูครับ ว่าเครื่องดนตรีชิ้นไหนของเรา มันขาด Energy หรือ Energy มันเยอะเกินไปจนทำให้เพลงของเรานั้นอู้ ฟังทีละจุดเลยครับ ลองเทียบดูว่าเราต้องการให้ส่วนไหนลดส่วนไหนเพิ่ม ถ้าเจอแล้วจะเพิ่มหรือจะลดควรให้มันอยู่ที่ 100Hz-300Hz นั้นเองครับ ทำแค่นี้เราก็จะหาจุดบกพร่องและพัฒนาการมิ๊กซ์ของเราได้แน่นอนครับYoutube : Tong Apollo Instagram : classabytongapollo Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo TikTok : Class A by Tong Apollo#สอนทำเพลงออนไลน์ #แต่งเสียงร้อง #classabytongapollo
อีกหนึ่งปัญหาของการมิ๊กซ์เสียง ที่เกิดขึ้นบ่อยสำหรับโปรดิวเซอร์มือใหม่ หลายๆคนมิ๊กซ์เพลงแล้วรู้สึกว่าเอ้... เสียงที่เรามิ๊กซ์ออกมาแล้ว มันแห้งไป หรือมิ๊กออกมาแล้ว เสียงมันดูแน่นและอู้จนเกินไป วันนี้เราจะมาแก้ข้อสงสัยนี้กันครับซึ่งมันนี้เราจะหยิบมาให้ดูกันใน 3 Example นะครับ ได้แก่1. มิ๊กซ์แบบแห้งๆเลยไม่มีอะไร (Thin)2.มิ๊กซ์แบบเสียงแน่นเยอะไปในทางอู้ (Muddy)3.มิ๊กซ์แบบ Balanceหลายๆคนดูแล้วคงเกิดคำถามว่า เพราะอะไรมิ๊กซ์เพลงออกมาแล้ว ดูแห้งไม่มี มิติ ทำไมมิ๊กซ์ออกมาแล้ว เสียงมันอู้ๆ ดูอุดๆออกมาไม่หมด ซึ่งทั้งสองตัวนี้เกิดจาก การ Balance เสียงที่ไม่ดีหรือ Balance ในย่านความถี่ตํ่าไม่ดีครับให้จำไว้เลยครับ ถ้าเพลงของเราดูแห้งไม่มีอะไร นั้นคือย่านความถี่ Low เราน้อยไป แต่ถ้าเสียงมันอู้ๆ แน่นๆนั้นคือย่านความถี่ High เราน้อยเช่นกันครับหรือคิดแบบนี้ครับ ถ้าเพลงของเรามี Energy มากเกินไป เพลงเค้าเราจะรู้สึกอู้ๆแน่นอนครับ แต่ถ้า Energy ของเพลงน้อยเกินไป เสียงก็จะแห้งนั้นเองครับซึ่งระยะความถี่เสียงที่เราจะมาพูดกันนี้ จะอยู่ที่ราวๆ 100Hz ไปจนถึง 300Hzโดยประมานนี้นะครับและจริงๆแล้ว ปัญหาเรานี้ การ Boost หรือ Cut ไม่ได้มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาเรานี้นะครับ และไม่ใช่แค่ว่า ย่านนี้มีความดังไปหรือย่านความถี่เสียงนี้เบาไป ปัญหาของมันจริงๆแล้วคือ ย่านความถี่เสียง Low นั้นมี Energy ที่น้อยไปครับจริงๆแล้วการแก้ไขปัญหาเรานี้ เราต้องฟังหลังจากมิ๊กซ์เสร็จเลยครับ เช่นมิ๊กซ์ออกมาแล้ว เสียงแห้งไปมากขาด Energyต้องบอกก่อนนะครับ Volume Balance ต่อให้ Balance ระดับความดังของเสียงมันก็เกิดปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะสิ่งที่เราพูด ณ ตอนนี้คือเรื่องของ Energy ไม่ใช่แค่เรื่องของ Balance ระดับเสียงอย่างเดียว(ในกรณี ที่เพิ่งเริ่ม Mix ให้ใช้วิธีนี้ครับ)ซึ่งถ้าเกิดสิ่งเหล่านี้ปุ๊ป สิ่งที่้เราทำได้อีกอย่าง ก็คือใส่ EQ ลงใน Mix Bus ครับเช่นถ้า Energy มันเยอะไป ก็สามารถ Cut ย่าน Low ลงบ้างนิดหน่อยครับ ดูตามความเหมาะสม ซึ่งตรงนี้ต้องอาศัยการฟังมากๆ พยายามสร้าง Balance ของเสียงให้ได้มากที่สุดครับแต่ถ้าเกิดปัญหาเหล่านี้มันอยู่ในขั้นตอนที่ เราไปแก้ตั้งแต่แรก แล้วมันทำให้เวลางานช้าขึ้นหรือยุ่งยากขึ้นเรามีเคล็ดลับมาบอกกันครับ เริ่มกันที่นี้เลยครับ Energy มากเกินไปหรือ (Muddy)2 .หาเสียงเครื่องดนตรี ที่เราคิดว่าเสียงนั้นเคลียร์ดีแล้ว Balance ระดับเสียงทุกอย่างดีแล้วไม่จำเป็นจะต้องปรับอะไรแล้ว หาที่ละเครื่องดนตรีทั้งหมดของเพลงเราเลยครับ โดยการ Mute เสียงฟังดูที่ละเครื่องดนตรี ฟังซํ้าๆ เมื่อเราปิดบางเครื่องดนตรี และรู้สึกว่า เสียงเครื่องดนตรีนี้พอปิดแล้ว เพลงของเราฟังแล้วดีขึ้น นั้นแหละครับ คือตัวปัญหาของเราเมื่อเจอปัญหาของเรา ก็สามารถใช้วิธีการใส่ EQ เพื่อไป Cut ย่านความถี่เสียงที่เราต้องการจะเอาออกหรือมันมากไปหรือจะลดเสียงของเครื่องดนตรีนั้นลงอีกหน่อยก็ได้ครับต่อมาจะเป็นในส่วนของเพลงที่ขาด Energy มากเกินไป หรือเสียงมันฟังออกมาแล้วแห้งนั้นเองครับซึ่งวิธีแก้ไขปัญหา (Thin)3. คือฟังเพลงของเราครับ ว่ามันขาดส่วนไหนมากเกินไป ยกตัวอย่าง ขาด Energy ในพาร์ทของกีต้าร์เราตรงนี้การใช้ EQ จะไม่มีผลอะไรแล้วครับ สิ่งเดียวที่เราต้องทำเลยนั้นก็คือ สร้างพาร์ทนั้นขึ้นมาอีกพาร์ทและทำ Octave ของพาร์ทนั้นให้ตํ่าลง และเพิ่มเสียงขึ้นในมิ๊กซ์ อีกนิดหน่อยเพราะการทำแบบนี้จะไม่ทำให้เสียงของเรานั้นเปลี่ยนโทนนั้นเองครับ และมิ๊กซ์ของเราจะรู้สึกได้เลยครับว่ามัน Balance มากขึ้น แต่การแก้ไขปัญหาข้อนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการอัดเสียงที่เราอัดมาตอนแรกด้วยนะครับถ้าเราอัดเสียงมาแย่ตั้งแต่แรก การแก้ไขปัญหานี้ทำได้ยากแน่นอนครับ(เหมือนที่เราบอกกันอยู่ประจำเลยครับ ว่าการอัดเสียงนั้นมีผลสำหรับมากต่องานของเรา โดยเฉพาะการมิ๊กซ์นั้นเอง)ปัญหาเหล่านี้จริงๆแล้ว มันเกิดจากการทำ High Pass Filters ด้วยนะครับอย่าใส่ High Pass ลงในทุกๆอย่างนะครับ เพื่อให้ Kick และ Bass นั้นมี Space อยู่บ้างครับอย่าขัดย่านความถี่เสียงตํ่าให้แคบเกินไปครับ เพราะถ้ามากไปมันจะทำให้โทนของเรานั้นเปลี่ยนเช่นกันการแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้ ควรฟังที่ละจุดและทุกชิ้นเครื่องดนตรี ที่อยู่ในเพลงเราครับ และลองดูครับ ว่าเครื่องดนตรีชิ้นไหนของเรา มันขาด Energy หรือ Energy มันเยอะเกินไปจนทำให้เพลงของเรานั้นอู้ ฟังทีละจุดเลยครับ ลองเทียบดูว่าเราต้องการให้ส่วนไหนลดส่วนไหนเพิ่ม ถ้าเจอแล้วจะเพิ่มหรือจะลดควรให้มันอยู่ที่ 100Hz-300Hz นั้นเองครับ ทำแค่นี้เราก็จะหาจุดบกพร่องและพัฒนาการมิ๊กซ์ของเราได้แน่นอนครับYoutube : Tong Apollo Instagram : classabytongapollo Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo TikTok : Class A by Tong Apollo#สอนทำเพลงออนไลน์ #แต่งเสียงร้อง #classabytongapollo
Comments