อย่ายึดติดมิกซ์ของเราอยู่กับแค่ Mono หรือ Stereo !
มั่นใจว่าเพื่อนๆหลายๆคนก็น่าจะกำลังมิกซ์เพลงกันเป็นเสตอรีโอกันอยู่แน่ๆ ซึ่งเพลงสมัยใหม่นั้นก็เป็นสเตอริโอกันหมดแล้วทั้งนั้น และเราก็จะไม่หลับหูหลับตาผ่านมันไปได้แน่ๆ เราแค่จะสร้างความมั่นคงแข็งแรงในโมโนพร้อมกับเช็คมิกซ์ของเราควบคู่กันไปกับสเตอริโอ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะทำในโมโนจนจบเพลงก็ตาม
แน่นอนแหละ ว่าท้ายที่สุดแล้วเพื่อนๆจะทำงานกับสเตอริโอเป็นหลักแล้วค่อยกลับไปเช็คเสียงแบบโมโนแบบที่เราทำๆกันมา และนี่ก็คือเหตุผลและข้อดีที่ว่าทำไมการกลับแนวทางในการทำเพลงแบบนี้ถึงทำให้เพื่อนๆดำดิ่งลงไปในมิกซ์ได้ลึกยิ่งขึ้น
1. สเตอริโอสำคัญมากๆสำหรับแนวเพลงและเพลงสมัยใหม่
ทุกๆอย่างในปัจจุบันนี้ไม่ว่าเป็น ภาพยนต์ ทีวี หรือเพลงก็ตาม ถูกอัดและเล่นออกมาผ่านระบบสเตอริโอ จะมีข้อยกเว้นอยู่ก็แค่พวก Podcast หรือไม่ก็รายการข่าวที่ใช้แค่เสียงเท่านั้น แม้แต่เพลงแนว Bluegrass(แนวเพลงเก่าๆที่เป็นรากฐานให้กับชาวอมเริกาในช่วงปี 1940) ก็ยังอัดออกมาในระบบ Stereo เช่นกัน
หรือต่อให้ทุกๆแทรคเสียงจะมากองๆรวมกันตรงกลางก็ตาม เพื่อนๆก็จะยังได้ยิน Reverb หรือเสียงต่างๆที่เป็นสเตอริโออยู่ดี ยังไงก็ตาม เราก็ไม่สามารถหลีกหนีความจริงที่ว่าสเตอริโอคือเทคโนโลยีที่พัฒนามาแล้ว อีกทั้งมันยังเป็นสนองต่อความจริงที่ว่ามนุษย์เราเองนั้นก็ฟังเสียงสเตอริโออยู่แล้วด้วยหูทั้งสองข้าง
2. จำเป็นต้องเช็คสมดุลของระดับเสียงในรูปแบบของเสียงที่ถูกแพนแล้ว
ยังไงแล้วก็ตาม เพื่อนๆก็จะต้องกลับไปใช้สเตอริโอในการตรวจทานระดับเสียงของเสียงที่ถูกแพน แค่เพราะว่าเพื่อนๆปรับเสียงทุกอย่างดีเลิศที่ไม่ไปชนกับช่องสัญญาณกลาง และไม่มีปัญหา Phase Cancellation ใดๆ ไม่ได้แปลว่าเสียงของเพื่อนๆจะอยู่ระดับที่ถูกต้อง
จำเอาไว้เสมอว่าเมื่อใดก็ตามที่เครื่องดนตรีเราถูกแพนเสียง สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วก็คือระดับเสียงที่หายไปสูงถึง 3 dBs ในกรณีที่เราแพนเสียงออกไปไกลสุดหู ซึ่งเพื่อนๆจะต้องมาชดเชยสิ่งเหล่านี้ในสเตอริโอเอา เพราะเราจะไม่ได้ยินสิ่งนี้เลยหากยังอยู่ในระบบโมโน อีกทั้งหากเรายังไม่ยอมกลับไปใช้สเตอริโอแล้วนั้น เราก็จะไม่สามารถเอนจอยไปกับผลงานสุดประทับใจของเรา หรือได้ยินในแบบที่คนฟังควรจะยินได้ยินอีกด้วย
3. ไม่มีใครเขาฟังโมโนกันเป็นหลักแล้ว
เหมือนกับที่ว่าๆมา ถ้าคนฟังเพลงนั้นไม่ได้ใส่หูฟังหรือนั่งไม่ถูกตำแหน่งจากลำโพงแล้วละก็ เสียงสเตอริโอที่พวกเขาไปยินไปนั้นมันก็ไม่ถูกต้องอย่างที่มันควรจะเป็น นี่แหละเหตุผลที่เราต้องมามิกซ์เพลงในโมโน
การทำให้มั่นใจไปเลยว่าเพลงของเรานั้นจะออกมาเสียงดีแน่นอนแม้ในสภาพแวดล้อมที่แย่ที่สุดก็ตาม มันก็จะยังออกมาเสียงดีแน่ๆ อย่างคนขับรถที่นั่งชิดลำโพงขวาแล้วได้บยินลำโพงซ้ายไม่ชัด ไม่ก็นักท่องราตรีตามผับบาร์ที่อาจจะห่างจากตำแหน่งของลำโพงอย่างที่ควรจะเป็น หรือแม้กระทั่งสถาณีวิทยุบางที่ที่ยังถ่ายทอดสดเสียงเป็นแบบโมโนอยู่ก็ตาม
วิธีมิกซ์สองระบบควบคู่กันไปมันง่ายมากๆที่จะเอาไปใช้ แค่ย้ายมิกซ์เราไปทำในโมโนแล้วก็ทำเพลงตามขั้นตอนปกติ เมื่อเสร็จแล้ว เราก็จะได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ มันก็ทำให้มั่นใจได้ว่าปัญหาของเรานั้นแทบจะเป็นศูนย์ตอนกลับมาใช้สเตอริโออีกครั้งครับ
อย่าลืมที่จะสลับไปมาบ่อยๆระหว่างใช้โมโนกับสเตอริโอนะครับ เพราะเป้าหมายของเราคือเสียงแบบสเตอริโอ และโมโนนั้นก็เป็นแค่เครื่องมือเพื่อไปถึงฝั่งฝัน อย่ายึดคิดให้มากกับการมิกซ์ในระบบโมโน เพราะมันก็เป็นแค่ทางผ่านสำหรับการไปถีงสเตอริโอนั่นเอง
และสำหรับใครที่อยากรู้เทคนิคต่างๆ ของ MIX & MASTERING สามารถมาลงคอร์ส MIX & MASTERING กันได้เลยครับโดยในเนื้อหาบทเรียนก็จะแทรกทิปต่างๆไปให้กันอย่างจุใจเลยทีเดียว .. หากสนใจสามารถ Inbox สอบถามเข้ามาได้เลย ..
Youtube : Tong Apollo
Instagram : classabytongapollo
Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo
TikTok : Class A by Tong Apollo
#สอนทำเพลงออนไลน์ #แต่งเสียงร้อง #classabytongapollo
Comments