
หากต้องการเปรียบเทียบระหว่างปลั๊กอินกับฮาร์ดแวร์…ถือว่าเป็นประเด็นที่หลายๆคนถกเถียงและให้ข้อคิดเห็นกันค่อนข้างเยอะครับ และเหล่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต่างๆก็พยายามดึงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเพื่อแสดงให้เราเห็นว่าสินค้าฮาร์ดแวร์พวกนั้นยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
แต่มันไม่เสมอไปครับ…
ผมจำความรู้สึกแรกของการทำ session ที่สตูดิโอฮาร์ดแวร์ได้ดีครับ การได้สัมผัส Console Faders นั้นน่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ และมันถือเป็นประสบการณ์ที่เปิดหูเปิดตาผมมากๆเลยทีเดียว
แต่พอผมได้รู้จักและลองทำงานร่วมกับ digital workflow และได้มีโอกาสใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆอย่าง ‘ปลั๊กอิน’ (Plugin) ผมรู้สึกว่ามันสามารถตอบโจทย์ด้านการทำงานนอกกรอบได้ดีมากทีเดียว
และวันนี้ ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ ว่าทำไมปลั๊กอินถึงมีประสิทธิภาพดีกว่าฮาร์ดแวร์ในสตูดิโอ
เริ่มเลย!!!

1. ได้สัมผัส analog noise อย่างแท้จริง
เหล่าวิศวกรอาวุโสล้วนมีทีม ผู้ช่วยและช่างเทคนิคที่คอยช่วยให้พวกเขาทำงานได้สำเร็จลุล่วง!! Unlimited mastering & distribution, royalty-free samples มากกว่า 1200 รายการ, 30+ plugins และอีกมากมาย! มีให้เพื่อนๆได้เลือกตามใจชอบที่ LANDR Studio
สตูดิโอมืออาชีพมักจะมีงานยุ่งใช่ไหมล่ะครับ หากเกิดปัญหาใดหน่อย อย่างเช่น Single Console Channel หยุดทำงาน นั่นอาจส่งผลกระทบกับการทำงานครับ และทุกวันนี้ คอนโซลที่เพื่อนๆเห็นในสตูดิโอฮาร์ดแวร์ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้รับการบำรุงซ่อมแซมสักเท่าไหร่ ในที่นี้ผมพูดถึงอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานมากครับ แต่ Sketchy Console (หรือ Sketchy Analog) สามารถนำสิ่งประดิษฐ์ทุกชนิดมามิกซ์กันได้
ทุก analog bounce จะเป็นแบบเรียลไทม์ ต่อให้เกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยแค่ไหน เพื่อนๆก็ต้องเริ่มใหม่ครับ หรือหากใช้คอนโซลที่ไม่ได้ติดตั้งระบบอัตโนมัติ (หรือระบบอัตโนมัติพัง—เฟดเดอร์ที่ลอยอยู่อาจเป้นสาเหตุทำให้บอร์ดคลาสสิคล้มเหลวได้) เพื่อนๆก็จะต้องบันทึกประสิทธิภาพการทำงานอัตโนมัติอย่างถูกต้องด้วย มันค่อนข้างยากเลยครับ!
2. ไม่ต้องปวดหัวกับการ recall
ใครที่เคย recall analog mix คงทราบกันเป็นอย่างดี รู้ไหมครับว่าการ recall นั้น ใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อรีเซ็ตปุ่มและเฟดเดอร์ทุกอัน เพื่อนๆอาจต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวันเพียงเพื่อลดเสียง hi hat mic ลง 1.5 เดซิเบลก่อนที่จะทำการ mastering ในขั้นตอนต่อไป
จำที่ผมพูดเมื่อสักครู่ได้ไหมครับ เหล่าวิศวกรอาวุโสแทบจะไม่ต้องจำ session ของตนเองเลยเพราะมีผู้ช่วย!! ทีมเขาจะคอยดูแลงานพื้นฐานเพื่อไม่ให้ใครต้องเสียเวลาเลย แต่ในปัจจุบัน analog studio ไม่ค่อยมีอะไรแบบนั้นสักเท่าไหร่…
หากอยากเปลี่ยนแปลงมิกซ์ที่ถูก bounce เพื่อนๆจะต้องกลับไปที่ pen-and-paper session เพื่อดึงมันขึ้นมาบนคอนโซลอีกครั้ง แต่ผมขอถามกลับว่าเพื่อนๆว่าได้จดค่าต่างๆเก็บไว้บ้างไหมครับ? เห็นไหมครับว่าการ recall เป็นอะไรที่ใช้เวลานานและปวดใจที่สุด แถมมันจะไม่มีทางกู้คืนได้ครบ 100% ถึงบันทึก session ที่มีรายละเอียดสูงนั้นอาจช่วยให้เพื่อนๆกู้คืนได้มาก
แต่เพื่อนๆไม่สามารถย้อนเวลากลับไปและใช้เสียงที่เหมือนกับมิกซ์ก่อนหน้าได้อีกแล้ว… analog workflow ประเภทอื่นๆก็เช่นกัน ระวังไว้ให้ดีครับ!

3. ฮาร์ดแวร์ใช้งานยากกว่าที่คิด!!!
ฮาร์ดแวร์สตูดิโอที่มองเผินๆแล้วเป็นระเบียบสวยงาม แต่เบื้องหลังคือสายเคเบิลที่พันกันยุ่งเหยิงรุงรัง โดยเฉพาะสายแพตช์เบย์ (patchbay) แบบพิเศษซึ่งต้องใช้อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษหลายเท่า
การใส่เอาท์บอร์ดแชนแนลใน DAW และการหาจุด patch point บน patchbay อาจทำให้เพื่อนๆต้องใช้เวลาในการทำงานมากขึ้นหลายชั่วโมง ซึ่งอาจเพิ่มมากขึ้นถึงสามเท่าเลยครับถ้าเรายังใช้ฮาร์ดแวร์ บัส กับคอนโซลเก่าๆอยู่ แล้วยิ่งถ้าต้องเปลี่ยนการตั้งค่าหลังจากทำการปริ้นท์แล้วเมื่อไรล่ะก็ เพื่อนๆต้องทำการ recall อีกครั้งเชียวนะ !!!
แต่ข้อเสียเหล่านี้อาจไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ถ้าสตูดิโอของเพื่อนมีฮาร์ดแวร์เพียงชิ้นเดียว แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว มันก็สร้างความวุ่นวายกับการทำงานอยู่ดี
4. Outboard คุณภาพดีเทียบเท่า D/A
โพรเสสของ printing hardware ค่อนข้างมีความเสี่ยงถ้าเพื่อนๆยังไม่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์มากพอ การ compression หรือ EQ ที่มากเกินไป (ประมาณ 2-3 dB) อาจทำให้การมิกซ์เสียงกลายเป็นฝันร้ายได้
โพรเสสของ printing hardware ค่อนข้างมีความเสี่ยงถ้าเพื่อนๆยังไม่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์มากพอ การ compression หรือ EQ ที่มากเกินไป (ประมาณ 2-3 dB) อาจทำให้การมิกซ์เสียงกลายเป็นฝันร้ายได้
ท้ายที่สุด เพื่อนๆสามารถเพิ่มการประมวลผลหรือโพรเสสใดๆระหว่างการมิกซ์ได้เสมอ แต่จะไม่สามารถลบมันออกไปได้หากปริ้นท์ลงบนแทร็กที่บันทึกไว้แล้ว นั่นหมายความว่า outboard gear workflows ส่วนใหญ่จะรวม AD/DA conversion แบบครบวงจรเป็น interface กับฮาร์ดแวร์
การ conversion หลายครั้งคือการที่ audio intrface นั้นเริ่มสร้างผลกระทบต่อ final product ของการมิกซ์เสียงของเพื่อนๆ แต่อย่างไรก็ตาม การ AD/DA conversion ที่ได้คุณภาพสูงนั้นแทบจะสัมผัสไม่ได้เลยแม้จะมีการส่งสัญญาณเข้าออก analog domain อยู่หลายครั้ง
แต่อินเทอร์เฟซที่มีคุณภาพน้อยลงมานั้นสามารถ coloration ที่ส่งผลให้ไดนามิกและการตอบสนองความถี่ลดลงในแต่ละขั้นตอนของการ conversion ได้
ในหลายเคส ส่วนใหญ่ปลั๊กอินดีๆจะให้เสียงที่ดีกว่าฮาร์ดแวร์คุณภาพกลางๆหลังจากขั้นตอนเพิ่มเติมของการ conversion คุณภาพต่ำ amazing มากครับ!

Comments