Fabfilter Pro-Q3 เป็น Plugin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ครับ
เพราะสามารถใช้งานได้ทั้งการดูกราฟ EQ และการปรับจูน EQ ต่างๆที่สามารถทำได้ละเอียดมากครับ
และวันนี้เราจะมาบอกกันถึง 10 สิ่งที่ควรรู้ใน Fabfilter Pro-Q3 ครับ
1.หน้าต่างอินเตอร์เฟส สามารถแสดงผลเป็น 4K
เอกลักษณ์ของ Plugin นี้เลยคือหน้าต่างอินเตอร์เฟส ที่ดูสวยงามและบอกค่า Frequency ที่ละเอียด
ซึ่งตัว Plugin สามารถขยายขนาดหน้าต่างหน้าจอได้ใน Resolution 4K มีประโยชน์มากๆกับคนที่ใช้จอความละเอียดสูง ทำให้ได้ภาพคมชัดและสวยงามน่าทำงานมากขึ้นครับ แต่ฟังชั่นนี้มันกินสเป็คของคอมพิวเตอร์มากแน่นอนครับ ถ้าใครคอมไม่แรง อาจจะกระตุกแน่นอน
2.สามารถซูมเฉพาะย่านความถี่เสียง
หน้าจอสามารถเปเลี่ยนเป็น 4K แบบชัดสุดๆแล้ว เรายังสามารถซูมไปที่ย่านความถี่ที่เราต้องการได้
เพียงแค่เอาเม้าส์เราไปวางไว้ตรงย่านความถี่เสียงด้านล่าง และลากขึ้นลงมันก็จะทำการซูมให้เราทันทีครับ ซึ่งฟังชั่นนี้ช่วยให้เราสามารถปรับหรือเปลี่ยน Shape ในแต่ละย่านความถี่เสียงได้ละเอียดมากๆ เพราะชะนั้นฟังชั่นนี้มีประโยชน์แน่นอนครับ
3.สามาถสร้าง Dynamic Bands ได้ถึง 24 Bands
Fabfilter Pro-Q3 สามารถสร้าง Bands ได้ถึง 24 Bands ด้วยกัน หลังจากเราสร้าง Bands ตามที่เราต้องการแล้ว เรายังสามารถสร้าง Dynamic ในแต่ละ Bands ได้อีกด้วย โดยการคลิ๊กขวาที่ Band และเลือก Make Dynamic เท่านี้ก็สามารถจูนเสียงตามที่ต้องการแบบละเอียดได้ทันทีครับ
4.EQ Matching
ฟังชั่น EQ Matching เป็นฟังชั่นที่มีประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องการ EQ Match กับเพลงที่เราต้องการ
เช่นเราต้องการปรับโทน EQ ของเพลงเราให้เหมือนเพลงที่เราชื่นชอบ และยังสามารถฟังในเฉพาะบางย่านความถี่เสียงที่ต้องการได้อีกด้วยครับ ในส่วนของ Bands ก็สามารถเลือกปรับได้มากสุดถึง 24 Bands จึงได้ความละเอียดมากๆเลยครับฟังชั่นนี้
5.สามารถใช้ Piano Roll เพื่อหาตัวโน๊ตหรือคีย์
ในมุมล่างซ้ายสุดของหน้าต่างอินเตอร์เฟส จะมีไอคอนที่เป็นรูปเปียโนอยู่เล็กๆ เมื่อเราเปิดเปียโนโรลขึ้นมา Bands ที่อยู่ในกราฟ จะไปโชว์ในตัวเปียโนโรลด้วยครับ ฟังชั่นนี้ไว้ดูในเรื่องของคีย์และโน๊ตต่างๆ พร้อมทั้งบอก Frequency ในตัวอีกด้วยครับ ใครที่ไม่แน่ใจในเรื่องของโน๊ตและคีย์ ก็ใช้ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้นครับ
6.9 Filter Types และการตั้งค่า Gain Q
Fabfilter Pro-Q3 สามารถปรับ Filter Type ได้ถึง 9 แบบ ยกตัวอย่างเช่น Bell,Low Shelf,High Pass,High Shelf และ Flat แต่ละ Filter Type ยังสามารถปรับ Slope ได้ตั้งแต่ 6db ต่อหนึ่ง Octave ไปจนถึง 96db ต่อหนึ่ง Octave
7.EQ แบบ Analog สำหรับการ Mastering
หลายๆ Plugin จะให้ฟังชั่นในการปรับค่า EQ ต่างๆมาให้ แต่ใน Fabfilter Pro-Q3 เราสามารถเลือกปรับได้ถึงสามแบบหลักๆ นั้นก็คือ Zero Latency,Natural Phase และ Linear Phase แต่ทุกคนสงสัยใช่ไหมครับว่ามันคืออะไร เด้วเราจะสรุปกับ 3 อย่างนี้ให้ฟังครับ
Zero Latency คือการจับคู่การตอบสนองของ EQ แบบ Analog และเป็นการเดินทางของสัญญานเสียงที่ไม่หน่วง Natural Phase คือการตอบสนองของ EQ แบบ Analog ให้การตอบสนองความถี่ ที่แม่นยำที่สุด Linear Phase คือตัวกรองแบบเส้นที่จะตอบสนองเส้นของความถี่ สำหรับสัญญานที่ไม่ต่อเนื่อง Linear Phase
เฟสเชิงเส้นเป็นคุณสมบัติของตัวกรองที่การตอบสนองเฟสของตัวกรองเป็นฟังก์ชันเชิงเส้นของความถี่ ผลที่ได้คือส่วนประกอบความถี่ทั้งหมดของสัญญาณอินพุตจะถูกเลื่อนเวลา
โดยค่าคงที่เท่ากันซึ่งเรียกว่าการหน่วงเวลาของกลุ่ม ดังนั้นจึงไม่มีความผิดเพี้ยนของเฟสเนื่องจากการหน่วงเวลาของความถี่ที่สัมพันธ์กัน
ทั้งหมดนี้ก็คือการปรับ EQ ในรูปแบบต่างๆนั้นเองครับ ซึ่งเราเลือกตามความต้องการแล้ว ก็ยังสามารถเลือกได้อีกครับว่าจะให้เป็น Low,Medium,High,Very High หรือ Maximum
สำหรับโพรดิวเซอร์บางคนที่ต้องการ Analog EQ ในรูปแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการเลยครับ
8.Collision Function
บางย่านความถี่ที่มันทับกัน ถ้าเราจะใช้หูฟังนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่ Fabfilter Pro-Q3 เขาได้ให้ Collision Function มาด้วยครับ สามารถเข้าไปเปิดได้ที่ Analyzer และกดที่ Collision Function ตัวกราฟ EQ จะโชว์แถบ Highlight สีแดงที่ย่านความถี่ที่มันทับกันนั้นเองครับ
9.สามารถฟังเฉพาะย่านความถี่เสียงที่ต้องการได้
เราสามารถฟังแต่ละย่านความถี่เสียงได้ โดยกดไปที่ Band ที่เราต้องการจะฟัง หลังจากนั้นกดรูปหูฟังข้างๆเลข HZ Frequency มันก็จะ Solo หรือเปิดแค่ย่านความถี่นั้นครับ
สำหรับใครที่ไม่เจอฟังชั่นนี้ สามารถเข้าไปที่มุมขวาบนสุดของอินเตอร์เฟส และเข้าหน้าต่าง Help เลือก Show EQ Parameter Display แค่นี้ก็สามารถเปิดใช้งานฟังชั่นนี้ได้เลยครับ
10.สามารถแยกความถี่เสียงออกซ้ายขวาหรือกลางได้
ในแต่ละย่านความถี่เสียง เราสามารถปรับให้ออกเป็น ซ้าย,ขวา,กลาง และ Stereo ได้ด้วยครับ โดยการเข้าไปเลือกที่ Band ที่ต้องการจะเปลี่ยนและเลือกเป็น Stereo Placement ในเมนูของ Band
จากนั้นก็เลือกได้เลยครับ จะให้ออกเป็นแบบ Stereo หรือออกซ้ายขวา หรือกลาง ก็ทำได้หมดเลยครับ ฟังชั่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการปรับค่า Stereo ต่างๆแบบละเอียดครับ
ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ที่เราเลือกมาแนะนำ ต้องบอกเลยครับว่ามันใช้ประโยชน์ได้ทุกอันจริงๆ ทำให้คนที่ใช้ Fabfilter Pro-Q3 นั้นสามารถปรับความละเอียดในย่านความถี่เสียงต่างๆ
และยังใช้ Plugin นี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยครับ ใครที่ใช้ Plugin นี้อยู่แล้วลองไปเล่นดูนะครับกับ 10 ฟีเจอร์ที่เราบอกไป สำหรับใครที่ต้องการรู้เทคนิคและรายละเอียดของ Plugin อื่นๆ
ลองคอมเม้นมาแนะนำกันดูเลยครับ เผื่ออนาคตจะได้จัดคอนเท้นของ Plugin แบบนี้มาให้อีกครับ
Youtube : Tong Apollo
Instagram : classabytongapollo
Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo
TikTok : Class A by Tong Apollo
#สอนทำเพลงออนไลน์ #แต่งเสียงร้อง #classabytongapollo
Comentarios