top of page
Writer's pictureADMIN JAA

Audio Interface Vs Sound Card

Audio Interface Vs Sound Card ความแตกต่างที่เราต้องรู้


ยังมีอีกหลายคนครับที่สงสัยว่า Audio Interface และ Sound Card แตกต่างกันอย่างไร หรือ Sound Card มีฟังก์ชันเหมือนกับ Audio Interface หรือไม่ วันนี้เราจะพามาไขข้อสงสัยและทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ Audio Interface และ Sound Card กันครับ


ในทางเทคนิคแล้ว การ์ดเสียงคือรูปแบบหนึ่งของอินเทอร์เฟซเสียง แต่มันไม่ได้มีฟังก์ชั่นและคุณสมบัติที่มากเท่าที่อินเทอร์เฟซเสียง นี่คือสิ่งที่สร้างความสับสนสำหรับคนส่วนใหญ่ครับ

Sound Card คืออะไร?


Sound Card ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงเสียงสำหรับคอมพิวเตอร์ของเรา โดยจะแปลงสัญญาณเสียง Analog ที่เข้าสู่คอมพิวเตอร์ของเราผ่านอุปกรณ์อินพุตใดๆ เป็นสัญญาณดิจิทัลที่ระบบสามารถเข้าใจได้

หรือพูดง่ายๆว่า เจ้าตัว Sound Card เนี้ยะทำหน้าที่ ประมวนผลสร้างและขยายเสียงสัญญาณต่างๆ และส่งไปยังแหล่งกำเนิดเสียง เช่น ลำโพง หรือ หูฟัง ครับ


และทำไมเราต้องใช้ Sound Card ?


โดยปกติส่วนใหญ่ Sound Card จะนิยมมากในหมู่ของผู้ใช้ไว้เล่นเกมส์หรือดูหนัง เพราะจะช่วยให้เราได้รับเสียงที่ชัดเจน รอบด้าน และได้ยินรายละเอียดของเสียงมากขึ้นเช่น ทิศทางของเสียงกระสุน ซ้าย-ขวา ระยะเสียงเดินย่ำในบ้านหรือหญ้าใกล้ไกล พวกนี้จะช่วยให้เราได้เปรียบในการเล่นเกมส์มากครับ

และถ้าเราไม่ได้เล่นเกมส์เราใช้ Sound Card ได้ไหม ?


ตอบได้เลยว่า ได้ครับ นอกเหนือจากการใช้เล่นเกมส์แล้ว ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันตัวเทคโนโลยีของ Sound Card บางสามารถปรับ EQ แต่ละย่านได้ตามใจ หรือจะเป็นการปรับ รูปแบบเสียงที่เราสามารถ Custom เองได้ ทำให้ลำโพงภายในบ้านของเรากลายเป็นโฮมเธียเตอร์ เหมือนเราได้ดูหนังอยู่ในโรงหนังเลยทีเดียว


และสำหรับโปรดิวเซอร์ การทำเพลงเราใช้ Sound Card หรือไหม


สามารถใช้ได้เหมือนกันครับ ตัว Sound Card จะช่วยให้เราได้เสียงที่ดีกว่าเดิม แต่คุณภาพของเสียงก็จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นต่างๆด้วยครับ


ที่นี่เริ่มมีคำถามเกิดขึ้นกันแล้วใช่ไหมครับว่า ถ้ามี Sound Card แล้วจะมี Audio Interface ไว้ทำไม ?

เรามาเริ่มทำความรู้จักกับ Audio Interface กันก่อนครับ


Audio Interface ก็คือ อุปกรณ์สำหรับบันทึกเสียง และแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณดิจิตอล เหมือนกับ Sound Card นั้นแหระครับ แต่ Audio Interface ถูกออกแบบมาแตกต่างกับซาวด์การ์ดทั่วไป ไว้ใช้ในงานเกี่ยวกับการอัดเสียงโดยเฉพาะ เพราะคุณภาพของสัญญาณที่บันทึกได้เสียงรบกวนจะน้อยและให้คุณภาพเสียงทีดีกว่า และที่สำคัญ Audio Interface ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับงานด้านดนตรี ทำให้การตอบสนองการบันทึกเสียงและการเล่นเสียงที่รวดเร็ว ซึ่งแตกต่างกับซาวด์การ์ดทั่วไปที่ไม่มีชิปประมวลผลสำหรับโปรแกรมทำดนตรี อาจทำให้มีเรื่องของการดีเลย์ของเสียงล่าช้าทำให้เสียงกระตุกได้ครับ


ดังนั้นถึงจะเป็นตัวแปลงสัญญานเสียงเหมือนกันแต่ประโยชน์ในการใช้งานจะมากกว่า Sound Card ธรรมดาที่มากับคอมพิวเตอร์ หรือหูฟังแน่นอนครับ


เราจะมาเจาะลึกข้อดีของ Audio Interface กันครับ


1. เป็นตัวแปลงสัญญาณเสียงดิจิตอลให้ได้เสียงคุณภาพสูง

คอมพิวเตอร์หรือหูฟัง หรือชุดซาวน์การ์ดส่วนใหญ่ ก็สามารถใช้ได้ในระดับหนึ่งครับ แต่อาจจะไม่เหมาะกับการทำงานที่เกี่ยวกับเสียงคุณภาพสูง อย่างการทำงานเพลงครับ หมายความว่ายิ่งเราสามารถเข้าถึงความลึกของเสียงได้มากเท่าไหร่ เสียงก็จะยิ่งมีรายละเอียดมากขึ้นเท่านั้นครับ


2. Software Driver เฉพาะสำหรับ Audio Interface

Software ที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่อง จะช่วยให้การทำงานของเราไม่สะดุดติดขัด และช่วยให้การปรับ เพิ่มความคมชัด ขยายเสียงร้องหรือเสียงเครื่องดนตรี เพื่อให้ได้เสียงอย่างที่เราต้องการสมบูรณ์แบบมากที่สุด


3. หลากหลาย Option เสริม

สามารถใช้งานได้หลาย Output ในการฟังเสียงเช่น

Headphone outputs

Monitor outputs

MIDI output

Line outputs (both balanced and unbalanced)

ADAT


4. รองรับ Input ได้มากขึ้น

ถ้าเราใช้ Sound Card จากคอมพิวเตอร์จะสังเกตได้ว่าเราจะสามารถบันทึกเสียงได้เพียงครั้งต่อครั้ง แต่สำหรับ Audio Interface แล้วเราสามารถ บันทึกอินพุตเสียงได้มากเท่าที่มี อันที่จริง อินเทอร์เฟซเสียงบางตัวสามารถมีอินพุตได้มากกว่า 4 อินพุต และสูงสุดได้ถึง 32 อินพุตกันเลยนะครับ ลองนึกภาพดูถ้าเรามีวงดนตรีจะสะดวกแค่ไหนถ้าเราสามารถบันทึกเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิดกันได้ในครั้งเดียว !

นอกจากนี้นะครับ อินเทอร์เฟซเสียงบางรายการยังสามารถตั้งค่า MIDI I/O ควบคู่ไปกับ SPDIF และ ADAT ซึ่งเราจะสามารถใช้ ADAT เชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์อื่นๆเพื่อรับอินพุตเพิ่มเติมได้อีกด้วย !


5. มาพร้อมพรีแอมป์ในตัว

พรีแอมป์มีหน้าที่ในการเพิ่มสัญญาณเสียงระดับต่ำเพื่อให้มีความแรงพอที่จะรองรับเอาต์พุต ในทุกวันนี้ Audio Interface จำนวนมากมาพร้อมกับปรีแอมป์ในตัว ซึ่งช่วยให้คุณได้รับสัญญาณเสียงที่ดังและชัดเจนยิ่งขึ้นครับ


6. มันมีความล่าช้าน้อย

Audio Interface สามารถช่วยแปลงเสียงได้รวดเร็วกว่า Sound Card ซึ่งจะช่วยให้คุณลดเวลาในการทำงานและแน่นอนครับ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าระหว่างการทำงานหรือการประมวณค่าเสียงมีความล้าช้า สะดุด อาจจะให้การบันทึกเสียงไม่สมบูรณ์ หนักสุดอาจจะต้องเริ่มนับหนึ่งอัดใหม่เลยก็ได้นะครับ นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถเลือกปรับค่าหน่วงสัญญาน (Latency) ได้เช่นกันครับ


7. มี Phantom Power ในตัว

หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาแล้วบ้างว่ามันคืออะไรนะครับ แต่วันนี้เราจะไม่ได้มาเจาะลึกตัว Phantom Power แต่ที่เราจะกล่าวคือตัว Audio Interface สามารถทำหน้าที่แทน Phantom Power ได้เหมือนกันครับ



สำหรับน้องๆเพื่อนๆ มือใหม่ถ้าใครอยากรู้ว่า Phantom Power คืออะไร ดียังไงคอมเมนท์กันมาได้นะครับ แล้วเราจะเอามาลงให้เป็นความรู้กันเพิ่มเติมกัน แม้ว่าทั้งสองจะทำหน้าที่คล้ายคลึงกัน แต่ Audio Interface ก็มีฟังก์ชั่นในการใช้งานต่างๆได้หลากหลายมากกว่า ซึ่งทั้ง Audio Interface และ Sound Card เราก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของการใช้งานได้เลยครับ เอาง่ายๆว่า ถ้าใช้ในการเล่นเกมส์ ใช้ในกิจวัตรประจำวันเพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูหนัง เราก็สามารถเลือกให้ Sound Card ได้ครับ แต่ถ้าเป็นในส่วนของการทำงานเพลงที่ต้องใช้อัดและแยกหลายเสียง ลดเวลาในการทำงาน ยังไงแล้ว Audio Interface คือคำตอบสำหรับทุกคนครับ



Youtube : Tong Apollo

Instagram : classabytongapollo

Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo

TikTok : Class A by Tong Apollo

Komentarai


bottom of page