top of page
Writer's pictureADMIN JAA

iZotope Ozone 11 !!




อัพเดทใหม่ซะด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย สุดยอดปลั๊กอินที่ใช้ AI ในการ Mastering iZotope Ozone 11 !!

Ozone ปลั๊กอิน Mastering ที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และได้รับการยอมรับจากหลายสำนักทั่วโลก ล่าสุดได้มีการปล่อยเวอร์ชั่น 11 ที่เพิ่มฟีเจอร์และพัฒนาภายใต้สโลแกน Bring Tracks to Life = มอบชีวิตให้กับเสียงเพลง โดยใช้ AI มาช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น สะดวกสบายยิ่งขึ้น จะมีอะไรเด็ดๆ ลองมาอ่านต่อกันได้เลย


1 Clarity [Ozone 11 Advanced เท่านั้น] ถ้าเพื่อนๆอยากให้เสียงอะไรก็ตาม เคลียร์ ใส ดัง คมชัดขึ้น โดยไม่มีผลเสียต่อเพลง นี่เป็น AI ตัวนึงที่ช่วยในด้านนี้ได้อย่างดี มันจะปรับสเปกตรัมของเพลงให้สูงสุด จัดการไดนามิคในที่เราต้องการได้ ทำให้เสียงที่ได้ยินจะมีความดังและใสที่สะอาดมากๆ


2 Stem Focus [Ozone 11 Advanced เท่านั้น] ใน Ozone เวอร์ชั่นก่อนหน้า ถ้าเราจะให้ Assistant AI ฟังเสียงจากเพลงเรา เพื่อสร้างแผนการ Mastering ให้อัตโนมัติ มันก็จะสร้างลำดับปลั๊กอินให้เราเลยใช่ไหมครับ แต่ถ้าเราได้ผลลัพธ์ที่ชอบแล้ว และอยากจะปรับเสียงใดเสียงนึง ก็จะเสียเวลามากๆเลยนะ เพราะต้องให้มันคำนวนเสียงใหม่นั่นเอง จึงเกิดฟีเจอร์ Stem Focus ขึ้นมา ตัวเลือกในการให้ AI ฟังเสียงของเรา เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่เราสามารถเลือกได้ว่าอยากจัดการกับเสียงอะไรหลังใช้ AI เช่น Vocal , Bass , Drum และ Full Mix นะ แถมยังเลือกแล้วปรับเพิ่มเติมได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเสียงอื่นๆอีกด้วย


3 Transient/Sustain [Ozone 11 Standard ขึ้นไป] หากเพื่อนๆเบื่อกับ EQ เดิมๆที่ปรับได้แค่ เพิ่ม-ลด ย่านเสียง ทำไดนามิค หรือ Mid/Side นี่คือฟีเจอร์ที่ Ozone พัฒนามาเพื่อเปิดโลกใหม่ให้กับเรา ที่จะสามารถโฟกัสเสียง Transient และ Sustain ได้ด้วยการปรับตามย่านเสียงที่ต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับทุก EQ ของ Ozone ทั้ง Equalizer , Dynamic EQ , Vintage EQ และ Match EQ อีกด้วย ยังไม่หมดเท่านั้น มันยังใช้ได้กับ Low End Focus , Exciter และ Imager ด้วยนะ


4 Upward Compress [Ozone 11 Standard ขึ้นไป] ปกติแล้วเราจะรู้จัก Compressor ที่ใช้แล้วมันจะกดเสียงไม่ให้ดังเกินค่าที่เรากำหนดใช่ไหมครับ และอีกตัวคู่ขนานคือ Upward คือการที่เสียงถึงค่ากำหนดมันจะบูสต์เสียงขึ้นมาเพิ่มอีก ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ของ Ozone เลยนะ โดยเจ้าฟีเจอร์นี้จะอยู่ใน Maximizer นะครับ มันจะทำหน้าที่ประครองไดนามิคของเพลงให้ไม่สูงจนเกินไป ปรับส่วนที่เงียบให้ดังขึ้นเพื่อรักษาความดังของเพลงไว้นั่นเอง


5 Assistive Vocal Balance [Ozone 11Elements ขึ้นไป] หากเพื่อนๆมีเสียงร้อง แต่ไม่รู้จะปรับความดังเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าดังแค่ไหนถึงจะไม่เด่นเกินไป ต้องลดเท่าไหร่ถึงจะพอดีกับดนตรี ฟีเจอร์ทีเด็ดตัวนี้ ตอบโจทย์มากๆเลย เพื่อนๆจะได้เสียงร้องที่ชัดเจนและสมดุล อย่างสมบูรณ์แบบ ที่จะดึงอารมณ์ของเพลงออกมาได้ดีที่สุด ผ่านการวิเคราะห์ของ AI จากเพลงฮิตหลายร้อยเพลง มาเป็นต้นแบบ และเราสามารถปรับ Vocal Balance ได้ เมื่อมีเครื่องหมายติ๊กถูก หมายถึง เสียงร้องของเราอยู่ในความดังที่เหมาะสมแล้วนั่นเอง ทีนี้ก็หมดปัญหาปรับมั่ว เสียงโดนกลบ หรือเสียงเด่นเกินไปแล้ว


ส่วนราคาค่าตัวจะแตกต่างตาม Editions นะครับ ตัวต่ำสุด (Elements) ราคาจะอยู่ที่ $39 (ประมาณ 1400บาท) ตัวมาตรฐาน (Standard) $149 (ประมาณ 5300บาท) ตัวท็อป (Advanced) $229 (ประมาณ 8200บาท หรือถ้าเงินเยอะก็จัด Production Suit 6 ไปเลยครับ $449 (ประมาณ 16000บาท) ที่จะได้ Everything ของ iZotope เลย ทั้ง Ozone 11 Advanced , Rx10 , Nectar 4 และอื่นๆอีกเพียบ

ครั้งหน้าจะเป็นข่าวอะไร หรือมีเทคนิคใหม่ๆแบบไหนมาบอกเล่าให้เพื่อนๆอ่านกัน อย่าลืมกดติดตาม กดไลค์ ถ้าเห็นว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์และบอกต่อด้วยน๊าา

Comments


bottom of page