top of page

MIDI คืออะไร? สิ่งที่คนทำเพลงขาดไม่ได้!



ถ้าจะให้เหลากันตั้งแรกเลยว่า MIDI มันเริ่มมาตอนไหนผมก็คงต้อนย้อนกลับไปดูครับว่าเมื่อไรกันแน่ที่เราเริ่มแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนคือเครื่องดนตรีสดหรือเสียงจากคอมพิวเตอร์ เพลงหลากหลายแนว เครื่องดนตรีมากหน้าหลายตาเริ่มเพิ่มเข้ามาอย่างไม่หยุดตั้งแต่ช่วงปี 70 ก้าวกระโดดเข้าสู่ปี 80 จนมาถึงปัจจุบันครับที่กระแสของเครื่องดนตรีจากคอมพิวเตอร์เหล่านี้ยังคงเป็นกระแสมาเรื่อยๆ


MIDI คืออะไรครับ?


Musical Instrument Digital Interface หรือก็คือ MIDI ซึ่งเป็นมาตรฐานทางเทคนิคที่มีการตกลงที่จะใช้ในการเชื่อมต่อเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์กับคอมพิวเตอร์เพื่อทำการบันทึก แก้ไข และเล่นเพลงครับ

ถ้าพูดให้ชัดเจนขึ้นตัวอุปกรณ์นี้ไม่ได้มีเสียงจริงๆครับ เพียงแต่ MIDI เป็นเหมือนร่างกายให้เสียงเครื่องดนตรีต่างๆเข้าไปสิงแล้วเราก็มีหน้าที่ควบคุมเสียงเหล่านั้นครับไม่ว่าจะ Notation, Pitch, Velocity, Panning, Vibrato, Clock Signals รวมไปถึง Key Pressure ครับ


MIDI ใช้อัดเสียงได้ไหม?


MIDI ไม่ใช่การบันทึกเสียงแต่มันเป็นการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเสียงที่สั่งให้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ MIDI เล่นเสียงนั้น ซึ่งตัว DAW จะให้เพื่อนๆเข้าถึงเพื่อจัดการข้อมูลในส่วนนี้ เพื่อให้เikสามารถแก้ไข จัดเรียง และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ต้องการเกี่ยวกับ performance ในเพลงของเพื่อนๆครับ


ประโยชน์ของ MIDI


ความดีงามข้อแรกเลยก็คือเพื่อนๆสามารถเปลี่ยนเสียงเครื่องดนตรีได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่ต้องเล่นใหม่ทั้งหมด จำได้ไหมครับที่ผมบอกว่า MIDI เป็นแค่ร่างกายเท่านั้น เพื่อนๆก็เพียงแค่จับถอดเครื่องดนตรีชิ้นเก่าออกแล้วเอาชิ้นใหม่เข้าไปแทน จบ! แค่นี้เสียงดนตรีที่เล่นมาก็จะเปลี่ยนไปเป็นเครื่องดนตรีอีกชิ้นแทน

ข้อต่อมาก็คือการที่เพื่อนๆสามารถควบคุมคุณสมบัติต่างๆของเสียงใด้อย่างละเอียดมากๆครับไม่ว่าจะทำให้โน๊ตช้าเร็วหรือเบาดังก็ทำได้หมดครับ


การทำเสียงวนซ้ำ การสุ่ม การสลับตำแหน่ง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมากๆเช่นกันเพียงแค่ก็อปวางๆก็เสร็จแล้วครับ แถมยังแปลงแทร็ก MIDI ไปเป็นโน๊ตผ่าน Finale ก็ทำได้ง่ายๆเช่นกันครับ

เพื่อนๆสามารถปรับแต่งเสียงได้อีกมากมายไม่รู้จบ ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมตอนนี้ MIDI จึงกลายเป็นวิธีหลักในการผลิตเพลงในปัจจุบัน (ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณซินธิไซเซอร์คุณภาพสูงและสมจริง และการบันทึกเครื่องดนตรีแบบ One-shot ครับ)


ไฟล์ MIDI คืออะไร?


ไฟล์ MIDI เป็นเพียงฐานข้อมูลข้อมูลเกี่ยวกับลำดับของโน้ต โดยจะอยู่ในรูปแบบไฟล์ .MID เสมอ ไฟล์เหล่านี้สามารถสร้างได้หลายวิธีทั้ง export และ share ครับ การ import และใช้งานโดยอุปกรณ์ต่างๆก็ทำได้เช่นกันครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมพิวเตอร์ หนึ่งในวิธีการสร้างไฟล์เหล่านี้คือการเล่นเพลงบนคีย์บอร์ดซึ่งจะบันทึกไฟล์เพื่อให้เพื่อนๆสามารถเล่นและฟังเพลงของเพื่อนๆเองตามปกติเลยครับ ซึ่งเราก็เอาไฟล์พวกนี้ไปต่อยอดได้มน DAW รวมถึงแชร์ให้เพื่อนคนอื่นๆเอาไปลองปรับแต่งก็ได้เช่นกันครับ หรือสำหรับใครที่ไม่มีคีย์บอร์ดแต่ DAW นั้นยังมี piano roll อยู่ก็สามารถใช้ได้นะครับ ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกันเลยครับ




MIDI Track คืออะไร?


กำปั้นทุบดินเลยก็คือแทร็คธรรมดาอีกแทร็คนั่นแหละครับที่เป็น MIDI หลายคนมักจะใช้แทร็ก MIDI หนึ่งแทร็กต่อหนึ่งเครื่องดนตรีเลยครับ แต่ก็ยังสามารถใช้แทร็กเดียวเพื่อเรียกใช้ sequencer ทั้งหมดได้ ตัวอย่างเช่น มีปลั๊กอินกลองชุดหนึ่งแทร็กที่สามารถรวมข้อมูลสำหรับตัวไฮแฮท สแนร์ กลองคิก ฉาบ ทอม คาวเบล ฯลฯ




MIDI Controllers, Cables, & Ports


คีย์บอร์ดจะเป็นสิ่งแรกๆที่ทุกคนคิดถึงครับ แต่มันยังมีอุปกรณ์อีกสามสี่ชิ้นที่จำเป็นแถมราคาก็ไม่แพงด้วย(หรือเปล่า)


1. MIDI controller (keyboard, drum machine, etc.) ที่สามารถส่งออกข้อมูลได้

2. MIDI cable เพื่อใช้ส่งข้อมูล

3. Soundcard หรืออินเทอร์เฟซเสียงที่สามารถรับข้อมูลได้

4. DAW software ที่สามารถจัดระเบียบและจัดการข้อมูลได้


เพียงแค่นั้นแหละ ซึ่งคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในปัจจุบันจะมีโมดูลสำหรับเล่นเสียง MIDI รวมไปถึงขั้นตอนใน DAW มากมายซึ่งอาจจะฟรีและมีอยู่แล้วในคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆครับ อย่าง GarageBand บน Mac และสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะมีตัวแก้ไข MIDI และ Sequencer ที่เรียกว่า "เปียโนโรล" โดยสิ่งเหล่านี้สามารถรวมแทร็ก MIDI กับประเภทเสียงอื่นๆรวมไปถึงเสียงที่บันทึกไว้ด้วยครับ นอกจากนี้เพื่อนๆยังสามารถเรียกใช้ MIDI patch Bay, Daisy Chain และเครื่องดนตรีมากมายเพื่อบันทึกวงออเคสตราทั้งหมดได้เลยครับ (เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้สามารถส่งออกข้อมูลทั้งหมดได้) สำหรับบางคนอาจจะไม่ใช้ sound card แล้วไปใช้ MIDI-to-USB แทนก็ได้ครับแต่สำหรับผมไม่แนะนำ


MIDI Connectors & Cables


พอร์ตและสายเคเบิล (ทั้งตัวผู้และตัวเมีย) จะใช้คอนเนคเตอร์ DIN 5 พินที่มีสายกราวด์และสายไฟคู่ที่มีค่า consistent +5 โวลต์อย่างสม่ำเสมอ และสายไฟที่ไม่ได้ใช้งานอีก 2 เส้นที่บางค่าย MIDI ใช้เพื่อส่งผ่าน Phantom-Power ไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อใช้สำหรับแป้นเหยียบเท้าและอุปกรณ์เสริมต่างๆครับ




เนื่องจากสายเหล่านี้จะไม่มีอุปกรณ์ในการตรวจจับข้อผิดพลาด เพื่อนเลยจะไม่พบสายที่มีความยาวเกิน 50 ฟุต หรือได้รับสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าที่อาจทำให้ข้อมูลเสียหายได้ เพื่อนๆจะพบพอร์ตที่มีทั้ง ”In” และ “Out” อยู่เสมอ และบางครั้งเพื่อนๆจะเห็นตัวเลือก "Thru" (คล้ายๆกับเอฟเฟ็กต์ลูปที่เพื่อนๆสามารถส่งออกสำเนาของข้อมูลทั้งหมดไปยังเครื่องดนตรีอื่นได้)


MIDI Controllers & Instruments มีกี่แบบ?


ถ้าให้นึกถึงรูปแบบที่ฮิตๆกันก็มีอยู่สามสี่ตัวครับ ตัวแรกที่เราคุ้นกันที่สุดก็คือคีย์บอร์ดครับ ด้วยหน้าตาที่คุ้นเคย หลายคนใช้งานเป็นอยู่แล้วก็สบายเลย ยิ่งคีย์บอร์ดหลายตัวสมัยนี้ก็ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำ MIDI


อย่างที่สองเลยก็คงหนีไม่พ้น synthesizers เป็นได้ทุกอย่างตั้งแต่กลอง synth ยันขลุ่ย


อย่างที่สามก็หน้าจะคุ้นตาแน่ๆกับ MIDI pad ที่หน้าตาจะเป็นสี่เหลี่ยมๆเป็นช่องๆให้เรากดเสียงและปรับแต่งได้อย่างอิสระมากๆ ด้วยความที่ว่ามันทำอะไรได้เยอะ สะดวก จึงไม่แปลกเลยที่ว่าเราเจอได้แทบทุกที่เลยครับ


ตัวสุดท้ายก็คงเป็น MIDI sound module ที่คอยกำหนดเสียงดนตรีเราผ่านโปรแกรมจากคอม เอาไวใช้ในตอนที่เราต้องการ convert เสียงและ monitor ข้อมูลต่างๆครับ


สรุป


ถึงตรงนี้แล้วผมก็เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงเข้าใจความสำคัญของ MIDI มากขึ้นแล้วนะครับ การลดความยุ่งยากในการทำงานลงย่อมทำให้ศิลปินมีโอกาสเพิ่มความสร้างสันเข้าไปได้ บิ่งอุตสาหกรรมเพลงที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตอนนี้ยิ่งทำให้เข้าใช้ MIDI เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังศึกษาว่าจะลองใช้ MIDI ดีไหม ผมก็เชียร์ให้จัดเลยครับ คุ้มแน่นอน!


Youtube : Tong Apollo

Instagram : classabytongapollo

Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo

TikTok : Class A by Tong Apollo

bottom of page