top of page

สิ่งที่ควรมี ก่อนเริ่มต้นทำเพลง

สิ่งที่ควรมี ก่อนเริ่มต้นทำเพลง



วันนี้เราจะมาแนะนำกับคนที่สนใจเริ่มต้นทำเพลงกันครับ ว่ามีอะไรบ้าง

กับ 5 สิ่้งที่ควรมี ก่อนเริ่มต้นทำเพลง


1.Computer


การทำเพลงสิ่งแรกที่ต้องมีเลย นั้นก็คือ Computer ครับ และในปัจจุบัน Computer ก็มีให้เลือกใช้ได้เยอะครับ

ไม่ว่าจะเป็น Mac OS หรือ PC ก็สามารถเลือกใช้งานได้ ซึ่ง Spec Computer ที่แนะนำสำหรับการทำเพลง

นั้นก็คือ


CPU : i5 - i7 Generation ที่ 6 ขึ้นไป เพราะมันต้องใช้ในการประมวลผลต่างๆ อย่างเช่น การเปิด Plugin

การโหลดสิ่งของต่างๆ รวมไปถึง Track ที่เยอะขึ้นตามจำนวนที่ใช้ในเพลงของเราครับ ถามว่า i3 ใช้งานได้ไหม

ใช้ได้ครับ แต่ถ้าเป็น Music Production ใหญ่ๆ กระตุกแน่นอนครับ


Ram : 8GB ขึ้นไป เพราะถ้าตํ่ากว่านี้ เมื่อเราทำเพลงในจำนวน Track ที่เยอะๆกระตุกแน่นอนครับ


Harddisk : 500GB ขึ้นไป แต่สำหรับคนที่มีงบเยอะแนะนำให้ใช้เป็น 1TB ครับ เพราะสามารถเก็บ Plugin ได้เยอะกว่า

ในกรณีที่เก็บลง Drive C หรือเก็บลงตัวเครื่องครับ


ส่วนที่เหลือก็เลือกตามความเหมาะสมครับ หรือถ้าใครอยากใช้เป็น Apple MacBook แนะนำเป็นปี 2017 ขึ้นไปครับ

ก็สามารถใช้ในการทำเพลงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแน่นอน


2.DAW (Digital Audio Workstation)


ในส่วนของโปรแกรมทำเพลง จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนเลยครับ อยากให้ดูในหน้าต่าง Interface

และการปรับต่างๆของแต่ละโปรแกรมก่อน เพราะโปรแกรมส่วนใหญ่ล้วนแล้วมีฟังก์ชั่นที่คล้ายกันหมด อาจจะมีบาง

ฟังก์ชั่น ที่ไม่เหมือนกันครับ และโปรแกรมทำเพลงที่ก็มีให้เลือกได้หลากหลายมากครับ ยกตัวอย่างเช่น


Logic Pro X (ใช้ได้แค่บน Mac OS เท่านั้น)

FL Studio (ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ)

Cubase 12 (ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ)

Ableton Live 11 (ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ)

Studio One (ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ)

Pro Tools (ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการ)


หรือโปรแกรมอื่นๆก็สามารถเลือกตามความถนัดของเราได้เลยครับ


3.Monitor Speaker


อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ และขาดไม่ได้เลยในการทำเพลง แต่หลายคนคงสงสัยใช่ไหมครับ ว่าทำไมใช้ลำโพงทั่วไปไม่ได้

เป็นเพราะ Monitor Speaker ให้เสียงที่เที่ยงตรงและแม่นยำกว่า มีความทนทานและรับแรงสั่นสะเทือนจากเสียงได้สูง

การอัดเสียง Dynamic Range ของเสียงจะกว้างกว่าหลายเท่า จึงต้องใช้ลำโพง Monitor Speaker ในการใช้งาน

ส่วนราคาของ Monitor Speaker มีให้เลือกตั้งแต่ 3 พันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ถ้าในงบ 3 พันต้นๆก็จะมี Mackie CR3

แต่ถ้าใครที่มีงบประมานเยอะ เราแนะนำเป็นตัวนี้เลยครับ KRK Rokit 5 ที่มาในขนาด 5 นิ้ว และที่สำคัญการต่อ Monitor Speaker

ต้องต่อผ่าน Audio Interface ด้วยนะครับ เราไปดูกันที่ข้อต่อไปกับ Audio Interface กันเลย


4.Audio Interface

เมื่อมี Monitor Speaker ก็ต้องใช้ควบคู่กับ Audio Interface ถ้าเรียกง่ายๆตามคนไทยมันก็คือ ซาวน์การ์ดนี้แหละครับ Audio Interface เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับบันทึกเสียง

และแปลงสัญญาณ Analog ให้เป็นสัญญาน Digital หรือพูดง่ายๆเลย แปลงสัญญาณต่างๆ เป็นหัว USB เพื่อจะต่อเข้ากับตัว Computer นั้นเองครับ

สำหรับใครที่ต้องการอยากอัดเสียงเข้ากับตัวโปรแกรมทำเพลงต่างๆ แต่หัวไมโครโฟน เป็นหัวแบบ XLR ก็สามารถใช้ Audio Interface

แปลงสัญญานได้ และหลายๆคนไม่รู้ด้วยครับ ว่าการต่อ Monitor Speaker ใช้สาย XLR ในการเชื่อมต่อ เพราะฉะนั้นซื้อลำโพงมาแต่ไม่มี Audio Interface ก็ไม่สามารถต่อเข้า Computer ของเราได้


5.Microphone


ปัจจุบัน Microphone ก็มีให้เลือกใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Microphone แบบ USB,Microphone แบบ Condenser ซึ่งก็มีความแตกต่างกันไปครับ

เพราะ Microphone แบบ USB สามารถต่อเข้ากับ Computer ได้เลย และราคาของ Microphone แบบ USB ก็ถูกกว่าด้วยครับ มีราคาตั้งตั้งแต่ 500 บาท ไปจนถึง 5,000 บาท ครับ

แต่ถ้าใครมีงบประมานเยอะ ก็สามารถใช้เป็น Condenser Microphone ได้ครับ ซึ่งราคาจะมีตั้งแต่ 2,000 บาทไปจนถึงหลักแสนครับ แต่จะต้องใช้ควบคู่กับ Audio Interface เท่านั้นนะครับ

เพราะมันไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับค Computer ได้เลย จะต้องเป็น Port XLR ที่ต่อเข้ากับ Audio Interface เท่านั้นครับ


นี้ก็คือ 5 สิ่งที่ควรมีก่อนการเพลงครับ ถ้าสำหรับคนงบน้อยเราแนะนำเป็น Computer,โปรแกรมทำเพลง,Mirophone แบบ USB ก่อน แต่ถ้าใครที่มีงบประมาณเยอะ

เราแนะนำให้ซื้อให้ครบทั้ง 5 ชิ้นเลยครับ การทำเพลงจะสะดวกสบายและมี Support ทุกการใช้งานสำหรับการทำเพลงแน่นอนครับ


Youtube : Tong Apollo

Instagram : classabytongapollo

Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo

TikTok : Class A by Tong Apollo



bottom of page