top of page

เป็น Music Producer ได้ ไม่ไกลเกินฝัน!



สิ่งที่ยากที่สุดของการจะทำอะไรสักอย่างก็คือ”การเริ่มทำ”ครับ ถ้าเราผ่านจุดนั้นมาได้ หลายๆอย่างจะนำพาเราไปเองครับผมมั่นใจ แต่การที่เริ่มได้นั้นไม่ง่ายเลย รวมไปถึงการเป็น Music Producer ที่เพื่อนๆน้องๆหลายคนใฝ่ฝันอยากลองเป็นดูสักครั้ง แต่ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมจะพามาเริ่มดูตั้งแต่สิ่งที่เราต้องเตรียมตัว ยันไปถึงวิธีและแนวคิดการพัฒนาตัวเองเลยครับ Let’s Go




อุปกรณ์ที่ต้องมี


แน่นอนว่าในสายงานนี้จะขาดอุปกรณ์คู่กายไปไม่ได้ซึ่งมันมีมากมายเหลือเกิน แต่ผมจะขอหยิบยกเท่าที่จำเป็นจริงๆมาครับ ไม่งานได้งยบานปลายแน่ๆ


• คอมพิวเตอร์ อันนี้คิดว่าเพื่อนๆทุกคนน่าจะมีอยู่แล้วครับ เสปคก็ไม่ต้องแรงมากก็ได้ครับ พวก CPU, SSD, RAM ก็เอาให้ดีระดับนึงก็ใช้ได้แล้วครับ

• DAW หรือ digital audio workstation เป็นอีกสิ่งนึงที่สำคัญมากๆสำหรับการจะทำเพลง เรียกได้ว่าเป็นบ้านอีกหลังในโลกดิจิตัลของเราเลย ไม่ว่าจะอัดเสียง มิกซ์หรือทำอะไรก็ตามก็จะทำผ่าน DAW หมดเลยครับ

• หูฟัง/ลำโพง เราจะทำเพลงได้ยังไงหากเราไม่ได้ยินเสียงเพลง การมีอุปกณ์ playback สักตัวที่เสียงตรงๆ ไม่เพี้ยนก็ใช้ได้ครับ หูฟัง iPhone เก่าๆบ้านๆก็ใช้ได้เช่นกันครับ หากใครมีทุนพอจะกระโดดไปเอาพวกอุปกรณ์ audio monitor เลยก็ได้เช่นกันครับ

• ไมโครโฟน เป็นเรื่องปกติที่เราต้องมีการบันทึกเสียงต่างๆทั้งร้องทั้งดีดสีตีเป่าเพื่อเอาไปต่อต่างๆ ดังนั้นการที่มีไมโครโฟนติดเอาไว้สักตัวก็สำคัญไม่แพ้กันครับ


วิธีทำเพลงจาก DAW


DAW แต่ละตัวบนโลกนี้ล้วนมีความสามารถพิเศษ จุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปครับแต่การทำงานหลักๆก็ยังเหมือนกัน ลองหาพวกตัวที่ใช้ง่ายๆ หรือไม่ก็พวกตัวที่มันฮิตๆอย่าง FL Studio หรือ Logic Pro มาใช้ดูครับเพราะมันจะมีวิธีและคลิปสอนใช้ตามอินเทอร์เน็ตเต็มไปหมด เรียนรู้ได้ง่ายและเร็ว ราคาอาจจะแรงไปหน่อย แต่อยากให้ได้ลองครับ


สิ่งที่อยากให้ไปศึกษาเพิ่มเติม

• สร้าง MIDI ด้วย piano roll

• สร้าง audio track เพื่อทำการบันทึกเสียง

• ตั้งค่า input source สำหรับการอัดเสียง

หากใครที่มีคีย์บอร์ดอยู่แล้วก็สบายเลยครับ เอามาใช้ป้อน MIDI แทนเมาส์คียบอร์ดละชีวิตง่ายขึ้นเยอะ


ทดลองเขียนเพลงแรก


ในตอนแรกเพื่อนๆอาจจะไม่ได้เพลงเต็ที่มสมบูรณ์หรือแม้แต่เพลงที่ฟังแล้วดูดี แต่นั่นคือจุดที่เราจะเริ่มสำรวจตัวซอฟต์แวร์ที่เรามี ทำการทดสอบปลั๊กอินและเสียง ซึ่งมันคือวิธีการเรียนรู้การทำเพลงครับ


DAW มีขั้นตอนในการเรียนรู้และฟีเจอร์ต่างๆซึ่งพอผ่านไปเพื่อนๆก็จะคุ้นชินกับมันเอง แต่โดยปกติแล้วอาจจะใช้เฉพาะเมื่อเพื่อนๆต้องการเท่านั้น ดังนั้นไม่ต้องไปซีเรียส ให้เริ่มต้นง่ายๆ และทำงานกับสิ่งที่คุณรู้ นั่นอาจหมายความว่าให้ลองสร้างลูปกลองแล้วเพิ่มเมโลดี้และไลน์เบสเข้าไป ซึ่งถามว่าผิดทฤษฎีดนตรี ใครจะสนหละครับ? ในเมื่อเพิ่งเริ่ม เราก็ควรจะสนุก ตื่นเต้น และเรียนรู้ต่อไปซึ่งมันไม่มีผิดหรือถูกอยู่แล้ว




เรียนรู้ทฤษฎีทางดนตรี


ในฐานะโปรดิวเชอร์ผลิตเพลงมันไม่มีทางหลีกเลี่ยงความจริงนี้ได้เลยครับ หากเพื่อนๆไม่เข้าใจพื้นฐานของทฤษฎีทางดนตรี เพื่อนๆก็จะไม่สามารถเขียนคอร์ด ท่วงทำนอง และไลน์เบส หรือแม้แต่สร้างโครงสร้างเพลงพื้นฐานได้


ควรเริ่มต้นที่การเรียนรู้ว่าคีย์ดนตรีและคอร์ดนั้นทำงานอย่างไร จากนั้นจึงแยกท่วงทำนองและไลน์เบสออกจากคอร์ดที่เพื่อนๆเลือก เล่นเสียงเหล่านั้นไปสักครู่แล้วเพิ่มก้าวกระโดดไปเป็นการเล่นคอร์ดแบบผสม จากนั้นเพื่อนๆก็จะสามารถเริ่มเล่น chord inversions ได้เองครับ


ไม่ต้องรู้ลึกขนาดอาจารย์ แต่เอาแค่ให้พอมีพื้นฐานได้ก็พอแล้วครับ เพราะของพื้นๆนี่แหละที่จะพาจินตนาการเราให้ออกมาเป็นจริงได้


เรียนรู้การประสานเสียงและเรียบเรียง (Orchestration & Arrangement)


Orchestration หรือก็คือการที่เครื่องดนตรีหลายชนิดมารวมกันจนกลายเป็นวงดนตรี เครื่องดนตรีที่เสี่ยงต่อการปะทะทางเสียงกันจะมีบทบาทที่แตกต่างกัน เช่น กีตาร์ลีดกับกีตาร์ริธึม หรือ kick drum และเบส การเข้าใจบทบาทเหล่านี้ก็มีความสำคัญเช่นกันซึ่งมันจะนำไปสู่หัวข้อถัดไปที่เพื่อนๆจะต้องศึกษา ซึ่งก็คือการเรียบเรียง Arrangement ซึ่งหมายถึงช่วงที่เพื่อนๆต้องเริ่มปล่อยความสร้างสันในการจัด เพิ่มเติม หรือตัดออกชิ้นเครื่องดนตรีเพื่อมอบความสนุกให้กับเพลงครับ


เรียนรู้การ Mixing และ การ Mastering


ขั้นสุดท้ายเพื่อนๆจะต้องกล้าที่จะ mixing และ mastering ซึ่งจริงๆแล้วเพื่อนๆไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญมากก็ได้ครับ แค่อยากให้รู้ว่ามันมีอยู่ แต่การมิกซ์เป็นสิ่งที่จำเป็นหากเพื่อนๆต้องการให้เพลงในเวอร์ชันสุดท้ายฟังดูดีสุดๆหรือไม่ก็บูดไปเลยก็ได้ครับ


การมิกซ์เป็นศิลปะในการสร้างสมดุลระหว่างความแปรปรวนของระดับเสียง (dynamic) การวางตำแหน่งใน stereo field (panning) และความชัดเจนของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น (Equalization) เราไม่จำเป็นต้องเป็นถึงขั้นปรมาจารย์ในการมิกซ์ แต่ก็ต้องเก่งกว่ามือใหม่ที่ไม่รู้พื้นฐานเรื่องพวกนี้


สิ่งที่จะบอกตรงนี้นั้นคือการนำเพลงเวอร์ชั่นไฟนอลของเพื่อนๆมาขัดเกลาเพื่อให้มันดูน่าฟังมากขึ้นและใกล้เคียงกับสิ่งที่เพื่อนๆได้ยินจากสตูดิโอและศิลปินดังๆเลยครับ




วิธีที่สนุกๆในการเรียนรู้การผลิตเพลง


การศึกษาและฝึกฝนอย่างจริงจังอาจจะไม่ได้หมายถึงว่าต้องยากและน่าเบื่อเสมอไปครับ การเรียนรู้ผ่านอะไรใหม่ๆมันย่อมทำให้เราสดใหม่อยู่ตลอดเวลา



• Remakes ผมแนะนำก่อนเลยว่าให้พยายามรีเมคเพลงที่ชอบ ซึ่งนั่นหมายถึงการหาคีย์ การเล่นคอร์ด การประสานและเรียบเรียง และการสร้างมันขึ้นมาใหม่เป็นเวอร์ชั่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนๆมักจะหา acapella tracks ควบคู่ไปพร้อมกันก็ได้ครับ (เสียงที่แยกออกมาจากเพลง ซึ่งผมก็ได้เคยทำคลิปสอนการแยกเสียง acapella ไว้แล้วครับใน YouTube)


• Remixes อีกหนึ่งวิธีที่สนุกในการทำเพลงคือสร้างรีมิกซ์เพลงที่เพื่อนๆชอบ เพื่อนๆสามารถใช้ acapella tracks และทำการยืดเวลาเพื่อกำหนดเป้าหมายจังหวะได้ การนำเพลงที่เพื่อนๆคุ้นเคยและเปลี่ยนให้มันเป็นเพลงที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงนั้นเป็นอะไรที่ดีมากๆครับ


• Challenges ในส่วนสุดท้ายนี้ ผมชอบที่จะสร้างความท้าทายและตั้งโจทย์ในการทำเพลงให้กับตัวเองครับ อย่างการทำเพลงลูปเพียงแค่สองคอร์ด หรือแม้กระทั้งตั้งเป้าหมายอะไรแปลกๆอย่างเครื่องดนตรีทุกชิ้นที่ใช้จะมาจากปลั๊กอินฟรีที่มีก็น่าสนุกเช่นกันครับ แถมมันทำให้เราได้พลิกแพลงอะไรแปลกๆเสมอ

การเรียนรู้เพลงสไตล์อื่นๆที่เราไม่ค่อยชอบอย่างก็จะช่วยเพิ่มพูรไอเดียให้กับเราได้ไม่น้อยเลยครับ



ผลลัพธ์และ Feedback


วิธีรับ feedback นั้นมันขึ้นอยู่กับตัวเพื่อนๆ อาจจะเปิดให้เพื่อน ครอบครัว หรือจะใช้ message boards และฟอรัมออนไลน์ กรุ๊ปตามเฟสบุ๊ค หรือแม้กระทั่งเข้าร่วมกิจกรรมรับ feedback จากผมเองที่หน้าเพจ Class A ก็ได้เช่นกันครับ เพื่อรับคำวิจารณ์โดยไม่เปิดเผยตัวตนก็ได้ครับ แต่กุญแจสำคัญในที่นี้คือการนำคำติชมความเห็นต่างๆที่สร้างสรรค์เหล่านั้นทั้งหมดไปทดลองใช้จริงครับ ยอมเปิดใจเอางานที่เราภูมิใจไปรับฟัง feedback ในส่วนที่เรามองข้ามก็ถือว่าไม่เลวครับ


ค้นหาสไตล์การผลิตของตัวเอง


เพื่อนๆสามารถตอบตัวเองได้ไหมครับว่าทุกวันนี้เราชอบฟังเพลงแนวไหนมากที่สุด เราเข้าใจเพลงแบบไหน เข้าใจคอร์ดเพลงเยอะไหม หรืออาจจะลึกไปถึงการเรียงโน๊ตต่างๆในเพลงเลยครับว่าความรู้สึกและอินเนอร์ที่ถูกถ่ายทอดออกมามันเป็นยังไง


กุญแจสำคัญคือการทำให้เพลงมันเป็นที่จดจำแก่ผู้ฟัง แต่ก็ยังต้องสร้างช่องสำหรับตัวเราเองด้วย แนะนำว่าจะเริ่มทำเพลงแนวเดียวไปเลย หรือจะต่อยๆเปลี่ยนไปก็ได้ครับ อันไหนที่ใช่เราก็จะเริ่มรู้สึกได้เอง สิ่งวนี้ต้องใช้เวลาสักหน่อยครับ เป็นตัวของตัวเองแล้วสิ่งนั้นจะค่อยๆดึงดูดผู้ฟังที่ชอบความเป็นตัวเองของเพื่อนๆเข้ามาหาเราครับ


สรุปเด้ออ้าย


ก็มีแค่นั้นแหละครับ สำหรับการเริ่มเข้ามาสู่หนทางการเป็น Music Producer อาจจะดูเยอะไปสักนิดสำหรับบางคน แต่บอกเลยว่าแค่นี่แค่เริ่มต้นครับซึ่งการเริ่มต้นอะไรสักอย่างมันยากเสมอ หมั่นเพียรฝึกซ้อม มีวินัย สนุกเข้าไว้แล้วทุกอย่างก็จะค่อยๆตามเข้ามาครับ ผมก็เป็นแรงใจให้เพื่อนๆที่เดินทางตามหาความฝันของตัวเองนะครับ


Youtube : Tong Apollo

Instagram : classabytongapollo

Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo

TikTok : Class A by Tong Apollo


bottom of page