กลับมาแล้ว 🥳 กับการแจกสูตร…. แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ EQ นะ 5555 รอบนี้มากับการแจกสูตร Vocal Chain หรือลำดับการใส่ปลั๊กอินแต่ละตัวในเสียงร้องนั่นเอง😍
คนทำเพลงมือใหม่ หรือคนที่ยังไม่เข้าใจว่าเสียงร้องของเราต้องใส่อะไรบ้าง อะไรก่อน อะไรหลัง แล้วแต่ละตัวส่งผลยังไง วันนี้เราจะมาไกด์ให้เพื่อนๆกันครับ แต่ต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นไกด์เบื้องต้นนะ ไม่จำเป็นต้องเรียงตามแอดก็ได้ ^^
👉มาเริ่มกันที่ตัวแรกกันเลย Pitch Correction ถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ Auto-Tune นั่นแหละ มันจะช่วยปรับจูนเสียงร้องของเราให้ถูกคีย์
👉ตัวต่อมา นั่นคือ Substractive EQ , Surgical EQ มันคือการลด EQ พวกย่านที่ไม่พึงประสงค์อย่างเสียง Noise , Resonance , หรือเสียงที่ไม่น่าฟัง
👉มาต่อตัวที่ 3 เลย Compressor สำหรับ โทนเสียง จะไปเน้นในเรื่องความดัง และโทนเสียงแทน เพื่อให้เสียงบาลานซ์ และเกาะกันเป็นกลุ่มกันมากขึ้น
👉ตัวที่ 4 เอาแบบสั้นๆเลยนะ De-Esser ลดย่านเสียง S C Sh Ch Z ซ ส ช ฉ เพื่อไม่ให้บาดหู
👉ตัวที่ 5 Tonal EQ เป็น EQ ที่เราจะเอาไว้เพิ่มสีสันให้กับเนื้อร้อง ให้มีความอิ่ม ความชัดใสนั่นเอง
👉ตัวที่ 6 Compressor สำหรับ Dynamics เป็นเหมือนตัวเชื่อมที่ทำให้ปลั๊กอินตั้งแต่ตัวแรกจนตัวเนี่ย เป็นก้อนเดียวกัน รวมทุกอย่างให้กลมกลืนกัน
👉ตัวที่ 7 Saturation มาถึงตัวนี้ น่าจะได้เสียงที่เพราะ คมชัด น่าฟัง แต่ถ้าลองฟังดูดีๆ มันยังขาดพลังไปบ้าง ไอเจ้า Saturation นี่แหละจะมาเติมความอิ่ม และพลังให้เสียง
👉แต่เดี๋ยวก่อนนนนน เรายังมีเอฟเฟคที่ต้องใส่อีก 2 อย่าง ก็คือ Reverb และ Delay เจ้า 2 ตัวนี้เราจะไม่ใส่สดนะ เสียงมันจะเบลอ ให้เราทำการ Send แทน เพื่อให้เสียงร้องหลักของเรายังคงชัดเจนอยู่ และก็ยังถูกส่งไป Reverb Delay โดยไม่เสียเนื้อเสียงนะ
ถ้าอ่านถึงตรงนี้แล้วยังไม่กดไลค์ กดแชร์ จะตีมือแล้วนะ นั่งพิมพ์ตั้งนาน 5555😂
⭐และนี่ เป็นเพียงเคล็ดลับส่วนนึงใน E-Book ของเราเอง ที่จะสอนมากกว่านี้อีก😎
